Page 195 -
P. 195

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว






                    ระยะ 2 แตกแขนงหรือแตกหน่อ (tillering) เริ่มหลังจากต้นข้าวมีใบที่ 5 (V5 stage) โดยมี
            แขนงแรกเรื่อยไปจนต้นข้าวแตกแขนงสูงสุด (maximum tillering) การแตกแขนงหรือการแตกหน่อนั้น

            หน่อจะแตกจากตาล่างของล�าต้นซึ่งอยู่ตามซอกของกาบใบ  (axillary  bud)  ได้แขนงหรือหน่อ  (tiller)
            ใหม่ โดยแขนงหรือหน่อปฐมภูมิหรือหน่อล�าดับแรก (primary tillers) แตกจากตาที่ข้อล่างๆ ของต้นเดิม
            (main stem) ระบบการแตกแขนงในต้นแม่ของข้าวเป็นดังนี้ (Moldenbauer et al., 2010)

                    (1) หลังจากมีใบที่ 5 จะเริ่มมีแขนงล�าดับแรก แขนงแรกแตกจากตาที่ซอกกาบใบที่สอง
                    (2) หลังจากมีใบที่ 6 แขนงที่สองแตกจากตาตรงซอกกาบใบที่สาม

                    (3) แขนงต่อไปของต้นแม่  จะแตกจากตาข้างของซอกกาบใบที่  n-3  (n  จ�านวนใบที่มี)  เช่น
            หลังจากมีใบที่ 7 แขนงที่ 3 จะแตกจากตาของซอกกาบใบที่สี่ (7-3=4)
                    ต่อมาแขนงหรือหน่อทุติยภูมิหรือล�าดับที่สอง (secondary tillers) จะแตกจากตาตามข้อล่างๆ

            ของหน่อปฐมภูมิที่เติบโตแล้ว  ในระยะนี้ข้าวมีการแตกแขนงตติยภูมิหรือล�าดับที่สาม  (tertiary  tillers)
            จากแขนงทุติยภูมิด้วย ในช่วงนี้ต้นข้าวมีจ�านวนใบและความยาวของใบเพิ่มค่อนข้างเร็ว
                       การแตกแขนงหรือหน่อของข้าวด�าเนินไปจนได้จ�านวนแขนงสูงสุดหรือการแตกกอสูงสุด ในขั้นนี้

            แทบจะไม่เห็นความแตกต่างระหว่างต้นแม่กับแขนง  ส�าหรับข้าวนาหว่านซึ่งมีต้นข้าว  10-20  ต้น/ตารางฟุต
            อาจมีแขนงที่มีรวง (panicle bearing tillers หรือ effective tillers) เพียง 2-5 แขนงต่อกอ แต่ข้าว
            นาด�าอาจมีจ�านวนแขนง 10-30 แขนง/กอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะปักด�า อย่างไรก็ตาม หลังจากช่วงแตกกอ

            สูงสุดไปแล้ว แขนงที่เกิดขึ้นใหม่จะตาย เนื่องจากอาหารซึ่งมาเลี้ยงหน่อมีไม่เพียงพอ
                    ระยะ 3 ล�าต้นยืดล�าตัว (stem elongation) เป็นระยะก่อนการก�าเนิดช่อดอก คาบเกี่ยวกับ

            ช่วงท้ายของระยะแตกหน่อ  ดังนั้นในระยะนี้จ�านวนหน่อก็ยังเพิ่มต่อไป  ควบคู่กับการเพิ่มความสูงของ
            ต้นข้าวอันเกิดจากการยืดปล้อง (internode elongation) ในขณะเดียวกันพื้นที่ใบจะเพิ่มขึ้น เนื่องจาก
            ความกว้างและความยาวใบเพิ่มขึ้นอย่างมาก ข้าวพันธุ์เบา (short-duration varieties) ซึ่งสุกแก่ภายใน

            105-120 วัน มีลักษณะของระยะ 3 แตกต่างจากข้าวพันธุ์หนัก (long-duration varieties) ซึ่งสุกแก่
            ภายใน 150 วัน กล่าวคือ ในข้าวพันธุ์เบานั้น ช่วงเวลาของการแตกกอสูงสุด ล�าต้นยืดตัวและเริ่มก�าเนิด

            ช่อดอกจะเกิดต่อเนื่องในเวลาที่ใกล้เคียงกันมาก  ส่วนข้าวพันธุ์หนัก  เมื่อแตกกอสูงสุดและผ่านระยะล�าต้น
            ยืดตัวแล้วจะมีช่วงชะลอหรือพักการเติบโต (lag vegetative period) หรือเติบโตช้าลง ก่อนที่เข้าสู่ระยะ
            ก�าเนิดช่อดอก

                    ส�าหรับช่วงชะลอหรือพักการเติบโต  คือ  ช่วงหลังจากแตกกออย่างรวดเร็ว  (active  tillering)
            จนถึงเริ่มเข้าสู่ระยะเจริญพันธุ์  ในช่วงนี้จ�านวนแขนงลดลงเนื่องจากแขนงที่แตกล่าได้ตายไป  ส่วนความสูง
            และขนาดใบเพิ่มอย่างช้าๆ

                    เนื่องจากจ�านวนรวงจะมากหรือน้อย  ขึ้นอยู่กับจ�านวนแขนงหรือหน่อที่มีช่อดอก  ดังนั้นระยะ
            การเติบโตไม่อาศัยเพศ  จึงเป็นระยะที่ก�าหนดศักยภาพของจ�านวนช่อดอกต่อพื้นที่  และจะกลายเป็น
            จ�านวนรวงต่อพื้นที่



                    ดิน ธาตุอาหารและปุ๋ยข้าว                              การเจริิญเติบโตของข้าว  191
   190   191   192   193   194   195   196   197   198   199   200