Page 152 -
P. 152

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว






          8. กลไกความทนเค็มหรือทนเกลือ (salt tolerance mechanisms) แบบต่างๆ ของพืชพวกไกลโคไฟต์
          (glycophyte)

                  นักวิชาการจ�าแนกพืชตามสภาพความเค็มของดินอันเป็นถิ่นที่อยู่ตามปรกติได้เป็น 2 พวก คือ
                  1) พืชที่มีธรรมชาติอยู่ในดินเค็ม หรือ “พืชดินเค็ม” (halophyte) พืชพวกนี้มีความสามารถใน
          การด�ารงชีวิตได้ดีในดินที่มีความเค็มสูง จึงมีเฉพาะพืชกลุ่มนี้เท่านั้นในสภาพดังกล่าว

                  2) พืชที่มีธรรมชาติอยู่ในดินไม่เค็ม  หรือดินธรรมดา  หรือไกลโคไฟต์  หรือ  “พืชดินกร่อย”
          (glycophyte) ส�าหรับพวกไกลโคไฟต์นั้น เมื่อพบกับสภาพความเค็มก็สามารถปรับตัวได้ระดับหนึ่ง อันเป็น

          ความพยายามเพื่อให้อยู่ในสภาพดังกล่าวได้
                  ข้าวเป็นพืชในกลุ่มไกลโคไฟต์ กลไกที่พืชพวกไกลโคไฟต์ใช้เมื่อเผชิญกับสภาพความเค็มของดิน
          มี 2 แบบ คือ (1) กลไกการเลี่ยงความเค็ม (avoidance mechanism) และ (2) กลไกความทนเค็มหรือ

          ทนเกลือ (salt tolerance mechanisms) (Lazof and Bernstein, 1999; Amtmann and Sanders,
          1999; Yeo and Flower. 1984) ดังนี้

               8.1 กลไกการเลี่ยงความเค็ม
                  ในแต่ละช่วงของวัฏจักรชีวิต หากรากได้รับเกลืออันเป็นสาเหตุของความเค็มในดิน การเจริญเติบโต
          ของข้าวจะได้รับความกระทบกระเทือน อย่างไรก็ตาม แต่ละช่วงชีวิต ข้าวจะไวต่อพิษของเกลือไม่เท่ากัน

          จากการทดลองให้ข้าวได้รับเกลือในความเข้มข้นต่างๆ กันในแต่ละช่วงชีวิต พบข้อมูลดังนี้
                  1) ระยะงอก: ค่อนข้างทนต่อความเค็มได้ดี

                     2) ระยะกล้าอ่อน: ไวต่อพิษของเกลือมาก
                     3) ระยะที่ต้นกล้าโตขึ้นมีการแตกกอและเพิ่มความสูง: ทนต่อความเค็มได้ดีขึ้น
                     4) ระยะเจริญพันธุ์ตั้งแต่เริ่มเกิดช่อดอกอ่อน (IPP) จนกระทั่งดอกบาน : ไวต่อพิษของเกลือมาก

                     5) ระยะสุกแก่: ทนต่อความเค็มได้ดีขึ้น
                  จึงสรุปได้ว่ามี 2 ระยะการเติบโตที่ข้าวไวต่อพิษของเกลือมากที่สุด คือ ตอนเป็นกล้าอ่อนและ

          ระยะออกดอก  หากข้าวสามารถหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญกับสภาพความเค็มสูงใน  2  ช่วงดังกล่าว  ก็ยังมีชีวิต
          รอดได้  ดังนั้นชาวนาจึงใช้ความรู้เรื่องนี้ส�าหรับการท�านาด�า  โดยใช้กล้าที่มีอายุ  25-30  วันในการปักด�า
          เพราะได้ผลดีกว่าใช้กล้าอายุต�่ากว่า  20  วัน  ในระยะตั้งท้องจนถึงออกดอกก็เช่นเดียวกัน  หากฝนตกชุก

          ท�าให้ความเค็มลดลงบ้างจะเป็นผลดีต่อข้าว อย่างไรก็ตาม ความทนเค็มของข้าวเพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่งในช่วง
          สุกแก่ของเมล็ด กรณีดังกล่าวข้าวจะปรับตัวโดยสุกแก่เร็วกว่าปรกติ เพื่อร่นวงจรชีวิตให้สิ้นสุดเร็วขึ้น

                8.2 กลไกความทนเค็มหรือทนเกลือ
                  กลไกความทนเค็มหรือทนเกลือ  คือ  กลไกที่เกี่ยวของกับสรีระและชีวเคมีที่ท�าให้ข้าวสามารถ
          ทนต่อระดับความเข้มข้นของเกลือที่รากได้รับมากกว่าระดับปรกติ  ข้าวพันธุ์ใดที่กลไกเหล่านี้ท�าหน้าที่ได้

          ดี ข้าวพันธุ์นั้นจะทนเค็มมากกว่าพันธุ์อื่นที่ไม่มีกลไกดังกล่าว




          148 ดินนาที่เป็นปัญหาต่อการปลูกข้าว                        ดิน ธาตุอาหารและปุ๋ยข้าว
   147   148   149   150   151   152   153   154   155   156   157