Page 65 -
P. 65
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
58 พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
58 58 พันธุศาสตร์ประชากร
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
สำาหรับการปรับปรุงพันธุ์
จีโนไทป์ ( − )
52
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
i (O -E )
AaBb
i
1.67
จีโนไทป์ O 70 E 60 ( − ) 2
i E
i
i
Aabb เมื่อมีการผสมพันธุ์กันอย่างสุ่มในประชากร จะมีความถี่ของจีโนไทป์ที่เกิดขึ้นดังนี้
60
0
60
AaBb
52 52 พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ 70 60 1.67
52 52
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพัน
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ ธุ์
aaBb
60
60
0
Aabb
พ่อ 60 60 0
50
aabb
60
.
เมื่อ เมื่อมีการผสมพันธุ์กันอย่างสุ่มใน . . . 1.67
เมื่อมีการผสมพันธุ์กันอย่างสุ่มในประชากร จะมีความถี่ของจีโนไทป์ที่เกิดขึ้นดังนี้ มีการผสมพันธุ์กันอย่างสุ่มในประชากร จะมีความถี่ของจีโนไทป์ที่เกิดขึ้นดังนี้
เมื่อมีการผสมพันธุ์กันอย่างสุ่มในปประชากร จะมีความถี่ของจีโนไทป์ที่เกิดขึ้นดังนี้
aaBb ระชากร จะมีความถี่ของจีโนไทป์ที่เกิดขึ้นดังนี้
0
60
60
แม่
รวม
240
240
50
aabb
60
. 0.1678AABB 0.0944AABb 0.0944AaBB 1.67
3.33 0.0531AaBb
พ่อ พ่อ
พ่อ . 0.0944AABb ͲǤͲͷ͵ͳAAbb 0.0531AaBb 0.0299Aabb
พ่อ
รวม
3.33
. .
. .
. .
.
.
240
.
.
.
.
.
แม แม่ แม่ . . จะเห็นได้ว่าผลรวมของค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า
240 .
0.0531AaBb
0.0531aaBB
0.0299aaBb
0.0944AaBB
.
แม่ ่
0.0531AaBb
0.0531AaBb .0531AaBb
จะเห็นได้ว่า ผลรวมของค่าไคสแควร์เท่ากับ 3.33 เมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 ที่ df
. . 0 0.1678AABB .1678AABB . 0.0944AABb 0 0.0944AaBB .0944AaBB 0.0299Aabb 0.0299aaBb 0.0168aabb
0.0944AABb .0944AABb
0
0
.
0.0531AaBb
0.1678AABB
0.0944AaBB
0.0531AaBb
0.0944AaBB
.
0.1678AABB
0.0944AABb
ไคสแควร์ที่ค านวณได้น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่ง
จะเห็นได้ว่าผลรวมของค่าไคสแควร์มีค่าเท่ากับ 3.33 ซึ่งเมื่อเปิดตารางไคสแควร์ที่ 0.05 พบว่า มีค่า
ͲǤͲͷ͵ͳAAbb AAbb
. . 0 0.0944AABb .0944AABb ͲǤͲͷ͵ͳ 0 0.0531AaBb .0531AaBb 0 0.0299Aabb .0299Aabb
0.0299Aabb
0.0944AABb
ͲǤͲͷ͵ͳAAbb
.
0.0531AaBb
0.0944AABb
0.0531AaBb
.
0.0299Aabb
ͲǤͲͷ͵ͳAAbb
ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 พบว่า มีค่าไคสแควร์ที่ค�านวณได้น้อยกว่า 7.815 แสดงให้เห็นว่า
อยู่บนคนละโครโมโซมหรือไม่มี linkage นั่นเอง
0.0531AaBb .0531AaBb
0.0531aaBB .0531aaBB
0
0.0299aaBb .0299aaBb
0
0
. . 0 0.0944AaBB .0944AaBB aBB ความถี่ของจีโนไทป์ในรุ่นลูก = 0.1678AABB 0.1887 AABb 0.0531AAbb
0.0531AaBb
0.0944A
0.0531aaBB
0.0299aaBb
.
.
0.0299aaBb
0.0944AaBB
0.0531AaBb
0.0531aaBB
ไคสแควร์ที่ค านวณได้น้อยกว่า 7.815 ที่ df ของตารางไคสแควร์เท่ากับ 3 แสดงให้เห็นว่า ยีนทั้ง 2 ต าแหน่ง
ยีนทั้ง 2 ต�าแหน่ง อยู่บนคนละโครโมโซมหรือไม่มี linkage นั่นเอง
0.0168aabb .0168aabb
. . 0 0.0531AaBb .0531AaBb 0 0.0299Aabb .0299Aabb 0 0.0299aaBb .0299aaBb [0.1887AaBB 0.2123AaBb 0.0597Aabb]
0
0.0168aabb
0.0299Aabb
0.0531AaBb
.
0.0299aaBb
0.0168aabb
0.0531AaBb
0.0299Aabb
0.0299aaBb
.
0.0531aaBB 0.0597 aaBb 0.0168aabb
อยู่บนคนละโครโมโซมหรือไม่มี linkage นั่นเอง
หรืออาจค านวณด้วยการใช้ orthogonal contrast โดยการค านวณ linkage เกิดจากผลคูณของ
หรือค�านวณด้วยวิธี orthogonal contrast โดยการค�านวณ linkage เกิดจากผลคูณ
0.1678AABB 0.1887 AABb 0.0531AAbb.1678AABB 0.1887 AABb 0.0531AAbb
0
0.1678AABB 0.1887 AABb 0.0531AAbb
0.1678AABB 0.1887 AABb 0.0531AAbb
การทดสอบประชากรที่อยู่ในสภาวะสมดุล
ระหว่างสัมประสิทธิ์ของแต่ละ contrast ก าหนดให้ เมื่อมีการท า test cross แล้วได้ลูก AaBb : Aabb : aaBb
ความถี่ของจีโนไทป์ในรุ่นลูก มถี่ของจีโนไทป์ในรุ่นลูก
ควา ความถี่ของจีโนไทป์ในรุ่นลูก = = = [0.1887AaBB 0 0.2123AaBb.2123AaBb 0.0597Aabb]
หรืออาจค านวณด้วยการใช้ orthogonal contrast โดยการค านวณ linkage เกิดจากผลคูณของ
ความถี่ของจีโนไทป์ในรุ่นลูก
0.0597Aabb]
0.0597Aabb] ]
=
[
[0.1887AaBB0.1887AaBB
0.2123AaBb
[0.1887AaBB
0.0597Aabb
0.2123AaBb
ของระหว่างค่าสัมประสิทธิ์ของแต่ละ contrast ก�าหนดให้ เมื่อมีการท�า testcross แล้วได้ลูก AaBb :
0
0
0
0.0168aabb.0168aabb
0.0531aaBB.0531aaBB
0.0597 aaBb.0597 aaBb
0.0597 aaBb
0.0531aaBB
0.0168aabb
0.0531aaBB
a = N n
0.0168aabb
0.0597 aaBb
n
: aabb เท่ากับ a : a : a : a ต้น ซึ่งจะมีจ านวนต้นรวมเท่ากับ ∑
2
นิยมใช้การทดสอบค่าด้วยวิธีไคสแควร์ (Chi-square) จากสูตร = ∑a
Aabb : aaBb : aabb เท่ากับ a : a : a : a ต้น ซึ่งจะมีจ�านวนต้นรวมเท่ากับ = N ]
)
1
4
3
2
i
i=1
ระหว่างสัมประสิทธิ์ของแต่ละ contrast ก าหนดให้ เมื่อมีการท า test cross แล้วได้ลูก AaBb : Aabb : aaBb
(O i −E i
n
2
i=1 [
i
3
1
4
i=1
2
a = N
การทดสอบประชากรที่อยู่ในสภาวะสมดุล สอบประชากรที่อยู่ในสภาวะสมดุล
การทด การทดสอบประชากรที่อยู่ในสภาวะสมดุล 1 2 3 4นอิสระต่อกันหรืออยู่คนละโครโมโซม สามารถค านวณค่าคาดหมายได้จาก
E i
การทดสอบประชากรที่อยู่ในสภาวะสมดุล
n
ถ้ายีนทั้ง 2 ต าแหน่งเป็
: aabb เท่ากับ a : a : a : a ต้น ซึ่งจะมีจ านวนต้นรวมเท่ากับ ∑
i=1
i
ถ้ายีนทั้ง 2 ต�าแหน่งเป็นอิสระต่อกันหรืออยู่คนละโครโมโซม สามารถค�านวณค่าคาดหมาย
ก าหนดให้
N 2
(O (a- )
2
ถ้ายีนทั้ง 2 ต าแหน่งเป็นอิสระต่อกันหรืออยู่คนละโครโมโซม สามารถค านวณค่าคาดหมายได้จาก
N
] ]
นิยมใช้การทดสอบค่าด้วยวิธีไคสแควร์ (Chi-square) จากสูตร = ิยมใช้การทดสอบค่าด้วย
i 4
น นิยมใช้การทดสอบค่าด้วยวิธีไคสแควร์ (Chi-square) จากสูตร 2 2 ∑∑ n n n n [ n n (O i −E ii −E i (O i ) ) 2 2 ] N ] 2 2 ] เห็นได้ว่า สามารถทดสอบสมมติฐาน
(O i −E −E )
=
ได้จาก a = หาค่าไคสแควร์ได้จากสูตร จะเห็นได้ว่า สามารถทดสอบสมมติฐาน
2 2
N
2
(a i − ) ) i
a = มีการหาค่าไคสแควร์ได้จากสูตร = ∑ ∑ [วิธีไคสแควร์ (Chi-square) จากสูตร = = ∑
4 i
[ [ [
i=1 E ii N
นิยมใช้การทดสอบค่าด้วยวิธีไคสแควร์ (Chi-square) จากสูตร = i=1i=1 i=1
2
i
N
E
4 i 4 = ค่าไคสแควร์ i=1 i=1 E 4 E i i 2
N
4
(a i − )
] เห็นได้ว่า สามารถทดสอบสมมติฐาน
N
ก าหนดให้ ดให้
ก าหนดให้ ้
n
ก าหน ก าหนดให ของการทดสอบความเป็นอิสระได้ดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต�าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบ
i ของการทดสอบความเป็นอิสระได้ดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบ
2
4
O
i = ค่าที่ได้จากการทดลองของล
i=1ักษณะที่ i
[
a = มีการหาค่าไคสแควร์ได้จากสูตร = ∑
N
4
อัตราส่วนของยีนต�าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต�าแหน่งว่าอยู่คนละโครโมโซม มีการให้
4
อัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่คนละโครโมโซม ซึ่งมีการให้ค่า
E
ของการทดสอบความเป็นอิสระได้ดังนี้ (1) ทดสอบอัตราส่วนของยีนต าแหน่ง A เป็น 1 : 1 (2) ทดสอบ
= ค่าไคสแควร์ i = ค่าที่คาดหมายของลักษณะที่ i
= ค่าไคสแควร์ ค่าไคสแควร์
2 2
= = ค่าไคสแควร์
2 2
n
สัมประสิทธิ์ของ contrast ดังตาราง
= จ านวนลักษณะที่ท าการทดสอบ
อัตราส่วนของยีนต าแหน่ง B เป็น 1 : 1 (3) ทดสอบยีนทั้ง 2 ต าแหน่งว่าอยู่คนละโครโมโซม ซึ่งมีการให้ค่า
O = ค่าที่ได้จากการทดลองของลักษณะที่ i ค่าที่ได้จากการทดลองของลักษณะที่ i
i i = i = ค่าที่ได้จากการทดลองของลักษณะที่ i
i = ค่าที่ได้จากการทดลองของลักษณะที่ i
O O O ค่าสัมประสิทธิ์ของ contrast ดังตาราง
และเมื่อท าการค านวณไคสแควร์แล้วเปรียบเทียบกับตารางไคสแควร์ พบว่า ถ้าประชากรมีค่าไคส
E = ค่าที่คาดหมายของลักษณะที่ i ค่าที่คาดหมายของลักษณะที่ i ะที่ i
i i = i = ค่าที่คาดหมายของลักษณ
i = ค่าที่คาดหมายของลักษณะที่ i
E E E สัมประสิทธิ์ของ contrast ดังตาราง orthogonal
จีโนไทป์
แควร์ที่น้อยกว่าค่าไคสแควร์ที่เปิดจากตารางแปลว่า ประชากรจะอยู่ในสมดุล
= n
Locus B
= จ านวนลักษณะที่ท าการทด
= จ านวนลักษณะที่ท าการทดสอบ
n n n = จ านวนลักษณะที่ท าการทดสอบ จ านวนลักษณะที่ท าการทดสอบ สอบ Locus A orthogonal Linkage
จีโนไทป์
แ และเมื่อท าการค านวณไคสแควร์แล้วเละเมื่อท าการค านวณไคสแควร์แควร์แล้วเปรียบเทียบกับตารางไคสแควร์ พบว่า ถ้าประ Linkage
AaBb ปรียบเทียบกับตารางไคสแควร์ พบว่า ถ้าประชากรมีค่าไคสแล้วเปรียบเทียบกับตารางไคสแควร์ พบว่า ถ้าประชากรมีค่าไคส่าไคส
และเมื่อท าการค านวณไคส
1 1ชากรมีค
1 1สีแดง (AA) 20 ต้น
จากตัวอย่างในประชากรที่มียีนควบคุม 1 ยีน ประกอบด้วยลักษณะที่ปรากฏดอก
และเมื่อท าการค านวณไคสแควร์แล้วเปรียบเทียบกับตาราง
1 1ไคสแควร์ พบว่า ถ้าประชากรมีค่าไคส
Locus A
Locus B
1 1
Aabb
แควร์ที่น้อยกว่าค่าไคสแควร์ที่เปิดจากตารางแปลว่า ประชากรจะอยู่ในสมดุล ์ที่น้อยกว่าค่าไคสแควร์ที่เปิดจากตารางแปลว่า ประชากรจะอยู่ในสมดุล
แควรแควร์ที่น้อยกว่าค่าไคสแควร์ที่เปิดจากตารางแปลว่า ประชากรจะอยู่ในสมดุล -1 -1 -1 -1
ดอกสีชมพู (Aa) 70 ต้น และดอกสีขาว (aa) 110 ต้น ท าการตรวจสอบความถี่ของจีโนไทป์ว่าเป็นไปตาม
แควร์ที่น้อยกว่าค่าไคสแควร์ที่เปิดจากตารางแปลว่า ประชากรจะอยู่ในสมดุล
AaBb
1
1
1
1 1
-1 -1
aaBb
ความถี่ของกฎฮาร์ดี-ไวน์เบิร์กหรือไม่
-1
1
-1
Aabb
จ จากตัวอย่างในประชากรที่มียีนควบคุม 1 ยีน ประกอบด้วยลักษณะที่ปรากฏดอกสีแดง (AA) 20 ต้น ากตัวอย่างในประชากรที่มียีนควบคุม 1 ยีน ประกอบด้วยลักษณะที่ปรากฏดอกสีแดง (AA) 20 ต้น -1 -1
จากตัวอย่างในประชากรที่มียีนควบคุม 1 ยีน ประกอบด้วยลักษณะที่ปรากฏดอกสีแดง (AA) 20 ต้น
จากตัวอย่างในประชากรที่มียีนควบคุม 1 ยีน ประกอบด้วยลักษณะที่ปรากฏดอกสีแดง (AA) 20 ต้น
1 1
-1 -1
-1 -1
aabb
-1
1
aaBb
ด ดอกสีชมพู (Aa) 70 ต้น และดอกสีขาว (aa) 110 ต้น ท าการตรวจสอบความถี่ของจีโนไทป์ว่าเป็นไปตามอกสีชมพู (Aa) 70 ต้น และดอกสีขาว (aa) 110 ต้น ท าการตรวจสอบความถี่ของจีโนไทป์ว่าเป็นไปตาม -1
ดอกสีชมพู (Aa) 70 ต้น และดอกสีขาว (aa) 110 ต้น ท าการตรวจสอบความถี่ของจีโนไทป์ว่าเป็นไปตาม
ดอกสีชมพู (Aa) 70 ต้น และดอกสีขาว (aa) 110 ต้น ท าการตรวจสอบความถี่ของจีโนไทป์ว่าเป็นไปตาม
ก าหนดให้ p คือ ความถี่ของยีน A และ q คือความถี่ของยีน a
-1
ความถี่ของกฎฮาร์ดี-ไวน์เบิร์กหรือไม่ มถี่ของกฎฮาร์ดี-ไวน์เบิร์กหรือไม่
ควา ความถี่ของกฎฮาร์ดี-ไวน์เบิร์กหรือไม่ aabb 20+ (70) -1 110+ (70) 1
ความถี่ของกฎฮาร์ดี-ไวน์เบิร์กหรือไม่
ส�าหรับการหาค่าไคสแควร์ ด้วย orthogonal contrast ก�าหนดค่า m เป็นสัดส่วนค่าคาดหมาย
ส าหรับการหาค่าไคสแควร์ ด้วย orthogonal contrast ที่มีการก าหนดค่า m เป็นสัดส่วนค่า
1
1
∴ ความถี่ของยีน A =
= 0.275 และ ความถี่ของยีน a =
2
2
หรือที่ต้องการทดสอบ เมื่อก�าหนดให้มีการทดสอบตาม class สามารถหาได้จากสูตร
ก าหน ก าหนดให้ p คือ ความถี่ของยีน A และ q คือความถี่ของยีน a 200 = 0.725
ก าหนดให้ p คือ ความถี่ของยีน A และ q คือความถี่ของยีน a ดให้ p คือ ความถี่ของยีน A และ q คือความถี่ของยีน a
คาดหมายหรือที่ต้องการทดสอบ เมื่อก าหนดให้มีการทดสอบตาม class สามารถหาได้จากสูตร
ก าหนดให้ p คือ ความถี่ของยีน A และ q คือความถี่ของยีน a
ส าหรับการหาค่าไคสแควร์ ด้วย orthogonal contrast ที่มีการก าหนดค่า m เป็นสัดส่วนค่า
200
จากการค านวณจ านวนต้นที่มีจีโนไทป์ตามกฎฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ซึ่งค านวณความถี่ของยีนได้ดังนี้
1 1 คาดหมายหรือที่ต้องการทดสอบ เมื่อก าหนดให้มีการทดสอบตาม class สามารถหาได้จากสูตร
1 1
1 1
1 1
1
2
110+
110+ (70)10+ (70) (70)
20+
20+ (70)0+ (70) (70)
∴ ความถี่ของยีน A =
∴ ความถี่ของยีน A = ∴ ความถี่ของยีน A = 20+ (70) = 0.275 และ ความถี่ของยีน a = 110+ (70) = 0.725
∴ ความถี่ของยีน A =
= 0.275 และ ความถี่ของยีน a = = 0.275 และ ความถี่ของยีน a = a =
= 0.725 = 0.725
= 0.275 และ ความถี่ของยีน
= 0.725
2 2
2 2
2 2
2 2
2 20000 200 2 20000 200 2 = (0.275) × 200
200 จ านวนต้นที่มีจีโนไทป์ AA ตามค่าที่คาดหมาย = p × 200
2
200
จากการค านวณจ านวนต้นที่มีจีโนไทป์ตามกฎฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ซึ่งค านวณความถี่ของยีนได้ดังนี้ กการค านวณจ านวนต้นที่มีจีโนไทป์ตามกฎฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ซึ่งค านวณความถี่ของยีนได้ดังนี้
จา จากการค านวณจ านวนต้นที่มีจีโนไทป์ตามกฎฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ซึ่งค านวณความถี่ของยีนได้ดังนี้
จากการค านวณจ านวนต้นที่มีจีโนไทป์ตามกฎฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ซึ่งค านวณความถี่ของยีนได้ดังนี้
จ านวนต้นที่มีจีโนไทป์ AA ตามค่าที่คาดหมาย 2 2 2 × 200 200 200 = = (0.275) 2
จ านวนต้นที่มีจีโนไทป์ AA ตามค่าที่คาดหมาย
2 × 200 200 200
= (0.275) × 200
2 2
จ านวนต้นที่มีจีโนไทป์ AA ตามค่าที่คาดหมาย = p × 200
2
จ านวนต้นที่มีจีโนไทป์ AA ตามค่าที่คาดหมาย = p= p × = p ×
= (0.275) (0.275) × ×