Page 8 -
P. 8
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2
3. วิธีการกักกันพืช
การกักกันพืช ก็เป็นวิธีการหนึ่งเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคจากแหล่งหนึ่ง ไปสู่ยังอีก
แหล่งหนึ่ง เนื่องจากเชื้อโรคมีขนาดเล็กมากเราไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้เลย และสามารถติดไป
กับพันธุ์พืชหรือชิ้นส่วนของพืชได้ การกักกันพืชนี้ปกติมีอยู่ 2 ระดับ ระดับแรกเป็นหน้าที่ทางราชการ
โดยตรงคือ รัฐเป็นผู้ดําเนินการระหว่างประเทศ โดยตั้งด่านตรวจพืชขึ้นเพื่อตรวจพืชกับผู้ที่จะนําพืชเข้า-
ออกประเทศ ตามจุดต่าง ๆ เช่น ตามท่าอากาศยานบางแห่ง ท่าเรือบางแห่งและจุดเข้า-ออกภาคพื้นดินตาม
ชายแดน โดยมีพืชบางชนิดห้ามนําเข้าโดยเด็ดขาดและมีพืชบางชนิดสามารถนําเข้ามาได้ แต่ต้องมี
ใบรับรองการปลอดโรค นอกจากนี้ยังมีการตรวจวินิจฉัยโรคตามความจําเป็นได้อีกด้วย ส่วนอีกระดับหนึ่ง
นั้น เป็นการดําเนินการระดับท้องถิ่น ซึ่งรัฐยังมีส่วนเกี่ยวข้องน้อยมาก ฉะนั้น เจ้าของสวนผลไม้
จําเป็นต้องดําเนินการเอง คือ พยายามอย่าให้ผู้ใดนําพืชทุกรูปแบบจากแหล่งอื่นผ่านเข้ามาในสวน หรือ
บริเวณที่ปลูกของเกษตรกรเพื่อช่วยสะกันกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อโรคเข้ามาสู่ในสวนของเกษตรกรที่
กําลังปลูกอยู่
4. วิธีการทางชีวภาพ
การป้องกันและกําจัดโรคพืชโดยวิธีการทางชีวภาพ เป็นวิธีการที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้มาก แต่
โดยทั่วไปแล้ว ในธรรมชาติก็มีสิ่งมีชีวิตทําลายสิ่งที่มีชีวิตเกิดอยู่แล้วทั่วไป มีตัวอย่างมากมาย เช่น เชื้อรา
Trichoderma viride และ T. lignonum เจริญอยู่ในดินจะทําลายเชื้อรา Phytophthora spp. อันเป็นสาเหตุ
โรครากและโคนเน่าของพืชหลายชนิด และยังกําจัดเชื้อรา Armillaria mellea สาเหตุโรครากเน่า
นอกจากนี้ยังมีเชื้อ Actinomycetes ทําลายเชื้อรา Fusarium oxysporum f.sp. cubense สาเหตุโรคตาย
พรายของกล้วย ข้อมูลที่ยกตัวอย่างมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่
นักวิชาการได้ค้นพบ ฉะนั้น ถ้ามีเชื้อจุลินทรีย์อื่นใดที่สามารถใช้ป้องกันและกําจัดเชื้อโรคของพืชได้ก็จะมี
ประโยชน์อย่างยิ่ง สําหรับเกษตรกรรายใหญ่เท่านั้นสามารถทําการเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์ที่ทําลายเชื้อโรคของ
พืชให้มีปริมาณมากขึ้น แล้วนําไปปล่อยในดินตามบริเวณสวนผลไม้และสมุนไพร
5. วิธีการทางเคมี
เป็นที่น่าสังเกตว่าเกษตรกรนิยมใช้สารเคมีมาทําการป้องกันและกําจัดโรคพืชกันมากยิ่งขึ้นแต่
สารเคมีเหล่านั้นเป็นวัตถุมีพิษ เกษตรกรผู้ใช้จําเป็นจะต้องมีความระมัดระวังมาก เพราะถ้าใช้ไม่ถูกต้องก็
อาจจะทําให้ถึงเสียชีวิตได้ หรืออย่างน้อยก็อาจจะอยู่ในสภาพตายผ่อนส่ง ก่อนใช้จึงควรสวมหน้ากากกัน
พิษพร้อมทั้งใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด และภายหลังการใช้แล้วก็จะต้องอาบนํ้าชําระร่างกาย ซักเสื้อผ้าให้สะอาด
ถ้าหากได้รับอันตรายจากสารพิษก็ต้องรีบนําส่งโรงพยาบาลทันที