Page 135 -
P. 135
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
129
การป้องกันและกําจัด :
ใช้สารเคมีคลุกเคล้าลงไปในดิน เช่น คาร์โบฟูแรน รักบี้ ไวเดท หรือโมแคบ 15 กรัมต่อ
หลุมก่อนปลูก 1 อาทิตย์ แต่ถ้าพบว่ามีโรคนี้เกิดขึ้นภายหลังปลูก ก็จําเป็นต้องใช้สารเคมีดังกล่าวอีก เพื่อ
ทําลายไส้เดือนฝอยให้หมดไป
8. โรคแอนแทรคโนส
ลักษณะอาการ:
แสดงอาการเริ่มเป็นแผลเล็ก ๆ บนไหล มีสีม่วงแดงและจะลุกลามไปตามความยาวของ
ไหล แผลก็จะขยายยาวและเปลี่ยนเป็นสีนํ้าตาล ทําให้ไหลมีลักษณะคอดตรงบริเวณแผล เมื่อนําไหลไป
ปลูกก็สามารถเจริญเติบโตได้ เมื่อสภาพแวดล้อมเหมาะสม กับการเจริญของเชื้อคืออากาศร้อนชื้น ใบจะ
เหี่ยวและเน่าแห้ง ตายได้ ถ้าผ่าดูจะเห็นสีนํ้าตาลแดงหรือดําบนต้น โรคนี้เกิดได้ทั้งไหล โคนต้น ราก และ
ผล ถ้าเกิดบนผล แผลจะเป็นจุดขนาดเล็กและขยายใหญ่เป็นสีดําคลํ้า แผลลึก ขอบแผลดํา ตรงกลางแผลสี
นํ้าตาลอ่อน หรือเทา
สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :
เกิดจากเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides เชื้อราชนิดนี้ทําลายทั้งราก ต้น ใบและ
ผล และพบระบาดเสมออยู่ที่ผล สปอร์ของเชื้อราดังกล่าวจะแพร่ระบาดไปยังผลในต้นเดียวและต้นอื่น ๆ
ตลอดจนภาชนะบรรจุผลได้โดยง่ายโดยอาศัยการสัมผัสติดไปหรือ ลมเป็นพาหะนําเชื้อโรค คือสปอร์ปลิว
ไปทั่ว โดยเฉพาะในบริเวณใกล้เคียงจะทําให้เกิดเป็นโรคได้ง่ายมาก
การป้องกันและกําจัด :
ใช้ไหลที่ปลอดโรค กําจัดวัชชพืช ตัดแต่งกิ่งที่เป็นโรค ฉีดพ่นด้วยสารกําจัดเชื้อรา เช่น
โปรพิโคนาโซล โปรคลอราช ผสมดูโอ400 ฉีดพ่นในแปลงไหลเพื่อป้องกันและกําจัดโรค ถ้าโรคระบาด
ในแปลงปลูกจะเริ่มถึงขั้นรุนแรงก็พ่นด้วยสารเคมี เช่น เบโนมีล 10 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร หรือแคปแทน 48
กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะก่อนเก็บเกี่ยว