Page 109 -
P. 109
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
103
ต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราเป็นอย่างมาก สปอร์ของเชื้อราที่ปลิวมาตกอยู่บนผลก็จะงอกเข้าทําลายตรง
ส่วนของแผลที่ขั้วและรอยแผลตามผิวของผล ทําให้เนื้อเยื่อภายในของผลถูกเชื้อราเข้าย่อยทําลายมีลักษณะ
อาการเน่าเละอ่อนนุ่ม ฉํ่านํ้า คุณภาพของผลเสียหายมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว เมื่อถูกทําลายอยู่ในขั้นรุนแรงจะมี
เส้นใยของเชื้อราขึ้นปกคลุมเต็มไปหมด มีทั้งเกิดสปอร์สีต่าง ๆ เช่น สีนํ้าเงินปนเขียว สีดํา สีขาว เป็นต้น
สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :
เกิดจากเชื้อรา Penicillium expansum Aspergillus niger Fusarium oxysporum
Rhizopus nigricans สปอร์จะปลิวฟุ้งอยู่ทั่วไป จึงทําให้เพิ่มการแพร่ระบาดมากยิ่งขึ้น
การป้องกันและกําจัด :
หลังการเก็บผลมาแล้วต้องล้างให้สะอาด และพ่นด้วยสารเคมี เช่น ไลโซล 5 เปอร์เซ็นต์
ผึ่งให้แห้ง แล้วจึงเก็บในยุ้งฉางหรือโรงเรือนที่ไม่อับชื้น
13. โรคขั้วผลเน่า
ลักษณะอาการ :
โดยทั่วไปโรคนี้จะเกิดขึ้นกับผลหลังการเก็บเกี่ยว โดยเชื้อสาเหตุจะเข้าทําลายที่ก้านของ
ผลแล้วลุกลามไปยังขั้วของผล ทําให้ผลเกิดเป็นแผลสีเทาคลํ้าหรือสีเทาดําตรงบริเวณดังกล่าวจะเกิดยุบตัว
ลงอย่างเห็นได้ชัด บนผิวจะมีลักษณะเหี่ยวย่น ในขณะเดียวกันถ้ามีอุณหภูมิและความชื้นเหมาะสม ก็จะมี
เส้นใยสีขาวนวลของเชื้อราเกิดเจริญปกคลุมเหมือนปุยฝ้ายบนแผลและต่อมาก็จะมีตุ่มนูนขนาดเท่าปลายเข็ม
หมุด สีดํา ซึ่งเป็น pycnidium เกิดอยู่บนผิวของแผลนั้น แผลจะยุบตัวลงไปมากยิ่งขึ้น เมื่อตรวจดูเนื้อเยื่อ
ภายในตรงส่วนนั้นจะพบว่าเน่าเป็นสีนํ้าตาลเหลือง มีลักษณะอ่อนนุ่ม ฉํ่านํ้า คุณภาพของผลเสียไป นับว่า
เสียหายมากถ้านําไปคั้นนํ้าบริโภค
สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :
โรคนี้เกิดจากเชื้อรา Botryodiplodia theobromae ซึ่งมีสปอร์เกิดอยู่ในตุ่มนูนดังกล่าว
เป็นจํานวนมาก เมื่อสปอร์แก่ก็จะแพร่ระบาดไปกับลม เกิดฟุ้งกระจายเข้าทําลายผลอื่น ๆ ต่อไป
การป้องกันและกําจัด :
นําผลที่เก็บเกี่ยวมาทั้งหมดไปจุ่มในสารเคมี เช่น ไธอะเบนดาโซล thiabendazole 500
ppm. นาน 3 นาที ผึ่งให้แห้ง แล้วเคลือบด้วยขี้ผึ้ง wax ซึ่งจะทําให้ไม่ถูกเชื้อราเข้าทําลายให้เกิดความ
เสียหายต่อไปได้