Page 104 -
P. 104
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
98
ตามปกติได้ จึงทําให้ใบเกิดมีลักษณะอาการเหี่ยว ชะงักการเจริญเติบโตไม่ผลิดอกออกผล ถ้าเกิดเป็นโรค
รุนแรงก็จะเหี่ยวแห้งยืนตายทั้งต้น
สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :
เกิดจากเชื้อรา Phytophthora parasitica P.cinnamomi เนื่องด้วยเชื้อราทั้ง 2 นี้ มี
สปอร์หลายชนิดและสามารถอยู่ข้ามฤดูกาลได้ ในการแพร่ระบาดนั้นนํ้าเป็นพาหะที่สําคัญและยังติดไปกับ
กล้าพันธุ์ได้อีกด้วย
การป้องกันและกําจัด :
เมื่อพบว่าโรคนี้เริ่มระบาดก็ควรราดโคนด้วยสารเคมี เช่น เมทาแลกซิล หรือ เบนาแลกซิล
30 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร ให้ทั่ว ในแปลงที่มีโรคนี้ระบาดมากก็ควรราดด้วยสารเคมีดังกล่าวทุกต้นสัก 2 ครั้ง
คือ ต้นฤดูฝนและปลายฤดูฝน ถ้าหากเป็นโรคมากก็ขุดออกไปเผาไฟเสียก่อนปลูกซ่อมต้องราดด้วยสารเคมี
ดังกล่าว
4. โรคดอกร่วง
ลักษณะอาการ :
เชื้อราสาเหตุของโรคจะเข้าทําลายใบดอกและผล ลักษณะอาการใบเกิดเป็นแผลค่อนข้าง
กลมสีนํ้าตาลอ่อนของแผลสีเข้มและล้อมรอบด้วยแถบสีเหลืองหรืออาจเป็นสีเหลืองหมดทั้งใบ ตรงกลาง
แผลจะแห้งและแข็ง มีขนาด 5-10 มม. เมื่อมีความชื้นสูง แผลจะฉํ่านํ้า สีเขียวหม่นหรือสีดํา เหี่ยวย่น
ลักษณะแผลบนดอกก็จะเหมือนกันกับที่เกิดบนใบ โดยเกิดเน่าที่กลีบดอกแล้วขยายเข้าสู่ก้านดอก ร่วงหล่น
ไปก่อนกําหนด สําหรับที่ผลจะเกิดเป็นจุดค่อนข้างกลมผิวขรุขระมีสีนํ้าตาลตรงกลางจะแห้ง และบุ๋มลงไป
เล็กน้อยที่ปลายยอดอ่อนจะเกิดเป็นจุดขนาดเล็กกลม หรือเป็นขีดทางยาว ฉํ่านํ้า ผิวของแผลอาจแตกแยก
ออก หรือเกิดเน่าแห้งโดยรอบ เหมือนเป็นรอยขวั้นแล้วแห้งตายไป โรคนี้นับว่าเป็นโรคที่ทําความเสียหาย
มาก เพราะทําให้ดอกร่วงไม่อาจได้รับการผสมเกสรเกิดผลต่อไปได้
สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :
เกิดจากเชื้อรา Septoria passiflorae มีสปอร์ conidia เกิดอยู่ในตุ่มนูน pycnidium ที่ยัง
อยู่ในเนื้อเยื่อของส่วนที่เป็นโรค เมื่อสปอร์แก่ก็จะปลิวไปกับลมหรือถูกนํ้าฝนชะพัดพาแพร่ระบาดไป
การป้องกันและกําจัด :
ควรตัดใบที่เป็นโรคออกไปเผาไฟ แล้วพ่นด้วยสารเคมี เช่น คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ 48
กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร หรือเบโนมิล 10 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร ให้ทั่ว และเก็บใบและดอกที่ร่วงหล่นอยู่บนพื้นดิน
ออกไปเผาไฟทําลายให้หมด