Page 7 -
P. 7
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เปลี่ยนแปลงการใชประโยชนที่ดินที่แตกตางกันโดยใหความสําคัญที่การเพิ่ม / ลดลงของพื้นที่การปลูก
ขาวโพดเลี้ยงสัตวโดยตั้งสมมุติฐาน 4 แบบ คือใหมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่การปลูกขาวโพดเทากับ รอยละ 0
รอยละ 50 รอยละ 80 และ ปลูกไมยืนตน 53.94% ปาไม 28.56% และพืชอื่นๆ 17.7% ของพื้นที่ทั้งหมด
ภายใตสถานการณการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแบบ A2 และ B2 ดวยแบบจําลอง SWAT ผลการศึกษา
พบวาองคประกอบของสมดุลน้ําซึ่งไดมาจากผลรวมของคาเฉลี่ยในแตละองคประกอบ น้ําทาผิวดิน + น้ําจาก
การไหลดานขาง + น้ําไหลซึมลงสูน้ําบาดาล – การสูญเสียจากการไหลซึม โดยพบวาปริมาณน้ําทาเฉลี่ย
ทั้งหมดของสถานการณการลดการปลูกขาวโพด (ขาวโพดลดลง 0%) และการปลูกไมยืนตน 53.94% ปาไม
28.56% และพืชอื่นๆ 17.7% ใหปริมาณน้ําทาเฉลี่ยในทุกๆ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศต่ํากวาสถานการณ
ที่มีการปลูกขาวโพดเทาเดิม (50%) และการปลูกขาวโพดเพิ่มขึ้น (80%) และสถานการณการลดการปลูก
ขาวโพด (ขาวโพดลดลง 0%) และการปลูกไมยืนตน 53.94% ปาไม 28.56% และพืชอื่นๆ 17.7% เกิดการ
สูญเสียจากการคายระเหยมากขึ้น การไหลใตผิวดินจากดานขางมากขึ้น และน้ําไหลซึมลงสูน้ําบาดาลมากขึ้น
กวาสถานการณที่มีการปลูกขาวโพดเทาเดิม (50%) และการปลูกขาวโพดเพิ่มขึ้น (80%) เนื่องจากสถานการณ
ที่พื้นที่ปาไมเพิ่มขึ้น หรือไมยืนตน ปาไมและพืชอื่นๆ เหลานี้คายน้ําในชวงกลางวันที่สูงกวาสถานการณพื้นที่ที่
ปลูกขาวโพดเทาเดิม หรือเพิ่มพื้นที่เปน 80% ตนไมใหญชวยชะลอการไหลของน้ําจึงทําใหเกิดการไหลลง
ดานขาง และไหลลงสูน้ําบาดาลสูงขึ้น
การเปลี่ยนแปลงการใชประโยชนที่ดินตามสถานการณการคงพื้นที่ปลูกขาวโพดและสถานการณการ
เพิ่มพื้นที่ปลูกขาวโพดภายใตสถานการณการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแบบ A2 และ B2 สงผลใหปริมาณ
ตะกอนมากที่สุด และเมื่อทําการจําลองปริมาณตะกอนในสถานการณ การลดจํานวนพื้นที่ปลูกขาวเลี้ยงสัตว
และสถานการณการปลูกไมยืนตน 53.94% ปาไม 28.56 % และพืชอื่นๆ 17.7% ภายใตสถานการณการ
เปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแบบ A2 และ B2 ใหปริมาณตะกอนต่ําที่สุด แสดงใหเห็นวาเมื่อพื้นที่ปาไมลดลงและ
พื้นที่ปลูกขาวโพดเลี้ยงสัตวเพิ่มมากขึ้นปริมาณตะกอนเพิ่มขึ้นเชนกัน
ปญหาที่พบมากในพื้นที่ศึกษาคือ 1. แหลงน้ํา ความตองการเรงดวนของชุมชนคือ ตองการฝาย อาง
เก็บ ประปาหมูบาน คลองสงน้ํา ฝายน้ําลน ประปาภูเขา ปรับปรุงอางเก็บน้ํา ขุดสระน้ํา สรางฝาย ฝายตนน้ํา
บอบาดาล และถังเก็บน้ํา ทั้งเพื่อการเกษตรในชวงฤดูแลง และน้ําเพื่ออุปโภคบริโภค 2. การจัดการเรื่องที่ดิน
นโยบายที่ดิน การแกไขปญหาที่ดินทํากินในปจจุบัน ทุกฝายตองรวมมือกันอยางจริงจังในการแกไขปญหาเรื่อง
ที่ดินทํากินในสังคมไทยอยางแทจริง เพราะยังไมมีนโยบายการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมอยางเปนระบบ เพื่อ
การกระจายการถือครองที่ดินอยางเปนธรรม โดยการใชมาตรการหลายมาตรการพรอมกันในการแกไขปญหา
โครงสรางการถือครองที่ดินที่เปนอยู คือการปฏิรูปที่ดินโดยชุมชน เพื่อใหชุมชนมีสวนรวมในการดูแลจัดการ
v