Page 56 -
P. 56

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว






                          •  ช่วงปี พ.ศ. 2533 ถ้าไม่ใช่เพราะฤดูกาลเพาะปลูกหรือเก็บเกี ยวแล้ว สาเหตุที ทําให้ราคาข้าว

                              ตกตํ า อาจจะเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจ

                          •  ช่วงปี พ.ศ. 2540 ราคาข้าวเพิ มสูงขึ น อาจเนื องมาจากประเทศจีนประสบภัยพิบัติทาง
                              ธรรมชาติ ทําให้มีการนําเข้าข้าวจากประเทศไทยเพิ มมากขึ น

                          •  ช่วงปี พ.ศ. 2546 ราคาข้าวเพิ มสูงขึ น อาจเนื องมาจากอุปสงค์ข้าวที เพิ มขึ นจากประเทศจีนที

                              ประสบกับภัยแล้ง

                          •  ช่วงปี พ.ศ. 2551 ผู้เชี ยวชาญเห็นว่าราคาข้าวในประเทศที เพิ มสูงขึ น เป็นสาเหตุมาจาก
                              โครงการรับจํานําข้าว

                       อย่างไรก็ตาม ผู้เชี ยวชาญจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยได้ให้ความเห็นว่าราคาข้าวในตลาดโลก

               ตั งแต่ปี พ.ศ. 2550 ถือว่าเป็นขาลงมาโดยตลอดเนื องจากอุปทานส่วนเกิน ด้วยหลายประเทศมีความวิตก
               กังวลต่อวิกฤตการณ์ทางอาหาร (food crisis) ทําให้เกิดการเปลี ยนในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมข้าว  หลาย

               ประเทศหันมาพึ งพาตัวเองมากขึ น ลดการพึ งพาการนําเข้า พยายามปลูกข้าวเองและทําการ stock ข้าวไว้เพื อ

               ความปลอดภัยทางอาหาร (food security)  จากปรากฏการณ์ดังกล่าวประกอบกับอุปทานข้าวภายในประเทศ

               ไทยเองก็เกิดส่วนเกินที ผิดปกติ ประกอบกับการส่งออกที ลดลง ยิ งกดดันทําให้ราคาข้าวภายในประเทศ
               ตกตํ าลงเรื อยมาหลังจากนั น

                       นโยบายรัฐกับราคาข้าว  ในอดีต การแทรกแซงตลาดข้าวโดยรัฐบาลมีน้อยมาก โครงการต่าง ๆ ของ

               รัฐบาลส่วนใหญ่เป็นไปเพื อหวังที จะกดดันทําให้ราคาข้าวในตลาดโลกดีขึ น อาทิ โครงการประกันราคา

               อย่างไรก็ดี โครงการดังกล่าวส่งผลกระทบน้อยต่อราคาข้าว ทั งในประเทศและตลาดโลก เนื องจากมีปัจจัย
               ทางด้านเวลาเข้ามามีส่วนด้วย กล่าวคือ มี time lag เนื องจากชาวนาสามารถเก็บเกี ยวข้าวได้ประมาณ 6 เดือน

               นับจากเพาะปลูก สําหรับโครงการรับจํานําข้าว มีการกําหนดราคาในการจํานําโดยใช้คํานึงถึงต้นทุนและ

               รายได้เป็นหลัก ไม่ได้คํานึงถึงราคาในตลาดโลก ภายใต้โครงการดังกล่าว รัฐได้รวบรวมผลผลิตเองจาก
               ชาวนา โดยรวบรวมหรือรับซื อไว้ในราคาที สูงมาก (สูงกว่าราคาตลาดโลก) ในช่วงเวลาดังกล่าว การส่งออก

               จึงลดลง


               ยางพารา

                       ผู้เชี ยวชาญให้ความเห็นว่าตลาดยางพาราเป็นตลาดของผู้ซื อ กล่าวคือ อุปสงค์เป็นตัวนําตลาด โดย

               ราคาที เกษตรกรยางพาราได้รับคือราคาประมูลตลาดกลาง  ซึ งในการประมูลยางพาราที ตลาดกลาง พ่อค้า/ผู้
               ส่งออกได้อ้างอิงราคาจากตลาดล่วงหน้าสิงคโปร์ (SICOM) โตเกียว (TOCOM) และเซี ยงไฮ้ (SHFE) โดย

               ก่อนการประมูลแต่ละครั ง พ่อค้า/ผู้ส่งออกได้รับ order และ deal ราคาขายก่อนแล้วจึงซื อยางพาราตาม order

               ที ได้รับซึ งมักมีกําหนดส่งมอบภายในประมาณ 30 – 60 วัน

                       ปัจจัยที มีผลต่อราคายางในตลาดโภคภัณฑ์  ประกอบด้วย






                                                           4-4
   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61