Page 66 -
P. 66
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เหล่านี้ท าให้เกษตรกรมีการปกปิดและปกปูองร่างกายระหว่างการฉีดพ่นสารเคมี โดยการสวมเสื้อแขนยาว มี
การใช้ผ้าหรือหน้ากากปิดปากปิดจมูก และสวมแว่นตาเพื่อปกปูองตาจากสารเคมี แต่ยังพบว่าเกษตรกรส่วน
ใหญ่ (ร้อยละ 52.48) ไม่ทราบว่าสารเคมีจะท าให้เป็นหมันได้ อีกทั้งมีเกษตรกรส่วนหนึ่งมีความคิดเห็นว่า
สารเคมีไม่สามารถท าให้เป็นหมันได้ (ร้อยละ 21.12) เนื่องจากความเป็นพิษในลักษณะนี้เกิดจากความเป็นพิษ
เรื้อรัง ที่มีเกิดจากการสะสม และยังไม่แสดงผลของพิษออกมาในระยะสั้น (ส านักโรคจากการประกอบอาชีพ
และสิ่งแวดล้อม, 2557) ท าให้เกษตรกรตระหนักและให้ความส าคัญของผลกระทบด้านนี้น้อย (ตารางที่ 5.10)
ตารางที่ 5.10 ความรู้เกี่ยวกับสารเคมีก าจัดศัตรูพืชของเกษตรกรตัวอย่างผู้ปลูกพืชผักที่ท าการศึกษาใน
จังหวัดนครปฐม ปทุมธานี และราชบุรี ปีการผลิต 2558/59
ค าตอบที่ถูกต้อง
ข้อความ
(ร้อยละ)
สารเคมีก าจัดศัตรูพืชอาจท าให้เกิดโรค 79.87
สารเคมีก าจัดศัตรูพืชอาจท าให้เป็นหมันได้ 26.40
สารเคมีก าจัดศัตรูพืชสามารถเข้าสู่ร่างกายทางการหายใจและท าให้หายใจไม่สะดวก 89.11
สารเคมีก าจัดศัตรูพืชสามารถซึมเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังและท าให้เกิดโรคผิวหนังได้ 88.78
สารเคมีก าจัดศัตรูพืชสามารถซึมเข้าสู่ร่างกายทางตาได้ 89.77
รวม 74.79
เกษตรกรที่มีการฉีดพ่นสารเคมีทางการเกษตรในพื้นที่ที่ฟาร์มพบว่า มีปัญหาทางสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นใน
พื้นที่ เช่น ปัญหาดินเสื่อมคุณภาพ อากาศเป็นพิษ การปนเปื้อนในแหล่งน้ า เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับผลกระทบ
จากการใช้สารเคมีทางการเกษตรของประเทศไทย โดยส านักควบคุมพืชและวัสดุทางการเกษตร (2556) พบว่า
ปัญหาส าคัญประการหนึ่งของการใช้สารเคมีทางการเกษตรคือปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีการตกค้างของ
สารเคมีอยู่ในสิ่งแวดล้อม อันเนื่องมาจากการแพร่กระจายระหว่างการฉีดพ่น ส่งผลให้เกิดการสะสมอยู่ใน
พื้นดิน แหล่งน้ า และบางส่วนจะระเหยอยู่ในอากาศ จนในที่สุดจะเกิดการสะสมของสารเคมีในห่วงโซ่อาหาร
ซึ่งจะท าให้สิ่งมีชีวิตในห่วงโซ่อาหารได้รับผลกระทบ อีกทั้ง ยังท าลายสิ่งมีชีวิตและแมลงที่เป็นประโยชน์ที่ช่วย
จัดการศัตรู เช่น ตัวห้ า ตัวเบียน หรือแมลงที่ผสมเกสร รวมทั้งยังส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์ต่อการย่อย
สลายอินทรีวัตถุ เช่น ไส้เดือนดิน เป็นต้น โดยปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกษตรกรตัวอย่างพบมากที่สุด เมื่อมีการใช้
สารเคมี คือ ปัญหาดินเสื่อมคุณภาพ ซึ่งเกษตรกรมีปัญหาดินเสื่อมคุณภาพเฉลี่ย 1.45 โดยเกษตรกรส่วนใหญ่
พบปัญหานี้ในระดับมาก รองลงมาคือ ปัญหาการระบาดของศัตรูพืชที่เพิ่มขึ้นหรือศัตรูพืชมีการดื้อยามากขึ้น
เฉลี่ย 1.35 ต่อมาคือปัญหาอากาศในพื้นที่และบริเวณโดยรอบเป็นพิษเฉลี่ย 1.15 และปัญหาพืชและสัตว์ใน
พื้นที่มีจ านวนลดลง และแมลงที่มีประโยชน์ เช่น ตัวห้ า ตัวเบียน มีจ านวนลดลงเฉลี่ย 1.11 โดยปัญหาสารเคมี
ปนเปื้อนในแหล่งน้ า เป็นปัญหาที่เกษตรกรพบน้อยที่สุดเฉลี่ย 0.97 (ตารางที่ 5.11)
51