Page 45 -
P. 45

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                                    3-14





               มาบริหารประเทศ และรัฐบาลคณะที่ 61 ไดจัดทํายุทธศาสตรการบริหารจัดการน้ําขึ้นแทนตามมติ
               คณะรัฐมนตรีวันที่ 7 พฤษภาคม 2558 โดยขอเท็จจริงแลว วัตถุประสงคหลักของนโยบายคณะที่ 60 เนนใน
               ดานแกไขปญหาอุทกภัยเปนหลัก สวนนโยบายของรัฐบาลคณะที่ 61 ครอบคลุมทั้งปญหาการขาดแคลนน้ํา
               อุทกภัย และคุณภาพน้ํา และรัฐบาลทั้งคณะที่ 60 และ61 ตางก็ตองกูเงินมาดําเนินการเชนเดียวกัน ถึงแมวา
               วิธีการและกฎระเบียบในการกูเงินจะแตกตางกัน จึงสรุปไดวาวัตถุประสงคหลักของนโยบายทั้งของรัฐบาล

               คณะที่ 60 และ 61 มีสวนที่สอดคลองกับนโยบายที่กําหนดไวในแผนพัฒนาฯ จะแตกตางกันในวิธีปฏิบัติหรือ
               การขับเคลื่อนเทานั้น
                              นโยบายที่แตกตางอยางชัดเจนก็คือการเรงรัดการตราพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ําของ

               รัฐบาลคณะที่ 61 และกระบวนการจัดทํายุทธศาสตรการบริหารจัดการน้ําที่ผานการมีสวนรวมของประชาชน
               รวมทั้งขอบเขตการบริหารจัดการที่ครอบคลุมทั้ง การขาดแคลนน้ํา อุทกภัย และคุณภาพน้ํา
                              จากการทบทวนนโยบายน้ําไทยจากอดีตสมัยสุโขทัยเมื่อ พ.ศ. 1762 ถึงปจจุบันจะสรุปไดวา
               นโยบายน้ําเริ่มตนเพื่อการเกษตร และอุปโภคบริโภค และไดขยายไปสูการใชน้ําเพื่อกิจกรรมอื่นๆ ในเวลา

               ตอมาตามการเปลี่ยนแปลงสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ทั้งนี้นโยบายน้ําที่กําหนดขึ้นในอดีตถึง
               ปจจุบันนั้นสรุปไดวามีวัตถุประสงคหลักเพื่อแกไขปญหาทรัพยากรน้ํา 3 ประการ คือ (1) การขาดแคลนน้ํา
               หรือภัยแลง (2) อุทกภัย และ (3) คุณภาพน้ํา สาระสําคัญของนโยบายน้ําที่กําหนดขึ้นในอดีตถึงปจจุบัน จึงมี
               สาระสําคัญที่ไมแตกตางกันมากนักหรือสอดคลองกัน เพราะสวนใหญแลวเนนการแกไขปญหาทั้ง 3 ประการนี้

               โดยเฉพาะการจัดหาและพัฒนาแหลงน้ํา จะแตกตางกันเพียงแตการขับเคลื่อนหรือจัดทําแผนปฏิบัติการขึ้น
               รองรับที่ไมสามารถดําเนินการตามนโยบายที่กําหนดขึ้นไดทุกดาน เพราะสาเหตุหลายประการ และการ
               ขับเคลื่อนมีการเปลี่ยนแปลงไปตามแตจะกําหนดโดยรัฐบาลคณะใหมที่เขามาบริหารประเทศ จึงทําให
               นโยบายขาดเอกภาพและมีปญหาสะสมมาตามลําดับ สงผลใหยังคงมีปญหาทั้ง 3 ประการนี้อยูในปจจุบันและมี

               แนวโนมวาจะรุนแรงยิ่งขึ้นในอนาคต

                      3.4.2 การวิเคราะหเปรียบเทียบนโยบายเฉพาะเรื่องที่คณะรัฐมนตรีมีมติและดําเนินการ
                      จากการวิเคราะหเปรียบเทียบนโยบายเฉพาะเรื่องที่คณะรัฐมนตรีมีมติ และดําเนินการในชวง

               แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 1-11 นั้นไดนํามาจัดเปนกลุมได 13 กลุม คือ
                              (1) การจัดหาน้ําและการพัฒนาแหลงน้ํา
                                     (1.1) แหลงน้ําขนาดใหญ  แหลงน้ําขนาดกลาง  แหลงน้ําขนาดเล็ก สระน้ําในไร-นา
               การขุดลอกแหลงน้ําธรรมชาติ

                                     (1.2) การพัฒนาน้ําบาดาล
                                     (1.3) การจัดหาน้ําอุปโภค-บริโภค
                                     (1.4) การจัดหาน้ําเพื่ออุตสาหกรรม
                                     (1.5) การสูบน้ําดวยไฟฟาเพื่อการเกษตร

                              (2) การพัฒนาการเกษตรชลประทาน
                              (3) การชวยเหลือราษฎรที่ไดรับผลกระทบจากการกอสรางเขื่อน
                              (4) การเตรียมการและชวยเหลือราษฎรที่ประสบภัยพิบัติ

                                     (4.1) ภัยแลง
                                     (4.2) อุทกภัย
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50