Page 162 -
P. 162

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                                       158






                     แฮพลอยด ซึ่งเมื่อเราชักนําใหมีการเพิ่มจํานวนชุดของโครโมโซม จะไดพืชสายพันธุแทในทันที ความ

                     เสื่อมถอยของลักษณะตาง ๆ ที่เปนผลมาจากการผสมตัวเองจึงไมเกิดขึ้น


                                 4.  ชวยเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดเลือก ทั้งนี้เพราะนักปรับปรุงพันธุพืชสามารถนํา

                     สายพันธุแทไปทดสอบไดรวดเร็วขึ้นภายใน 2 ชั่วของการสรางพืชสายพันธุแทจากตนแฮพลอยด

                     นอกจากนี้สายพันธุแทที่ไดจากการเพาะเลี้ยงอับละอองเกสรของพืชลูกผสมชั่วที่ 1 จะมียีโนไทปทุก
                     รูปแบบ ทําใหมีโอกาสสูงที่จะคัดเลือกไดสายพันธุแทที่มีลักษณะตามตองการ



                                 5.  ชวยเพิ่มประสิทธิภาพการใชประโยชนจากเฮตเทอโรซิส (heterosis) เปนที่ทราบ
                     กันดีวาสายพันธุแทที่ไดจากการเพิ่มจํานวนชุดโครโมโซมของตนแฮพลอยดมีความเปนโฮโมไซโกซิ

                     ตีสูงกวาสายพันธุแทที่ไดจากการผสมตัวเองของตนดิพลอยด ดังนั้นเมื่อนําสายพันธุแทที่มีความ

                     บริสุทธิ์ทางพันธุกรรมสูง ๆ เหลานี้มาผสมพันธุกันเพื่อผลิตลูกผสม ลูกผสมที่ไดจะมีเฮตเทอโรซิส
                     สูงสุด กลาวคือ จะมีความสม่ําเสมอ ความแข็งแรง และใหผลผลิตสูงสุด Wu  et al. (1980)  พบวา

                     ลูกผสมที่เกิดจากการผสมระหวางสายพันธุแทที่ผลิตจากตนแฮพลอยด (doubled haploid line) ให

                     ผลผลิตสูงกวาลูกผสมที่เกิดจากการผสมระหวางสายพันธุแทที่ไดจากการผสมตัวเอง (inbred line)


                                 6.  ตนแฮพลอยดมีประโยชนในการศึกษาการกลายพันธุของพืช (mutagenesis)

                     เนื่องจากตนแฮพลอยดมีโครโมโซมเพียงชุดเดียว ยีนในแตละตําแหนงจึงอยูในสภาพยีนเดี่ยวไมมีคู
                     ของมัน (allele) ดังนั้นเมื่อมีการชักนําใหเกิดการกลายพันธุของยีน เชน ทําใหยีนเดนเปลี่ยนแปลงเปน

                     ยีนดอย ลักษณะที่ถูกควบคุมโดยยีนนั้นจะแสดงออกมาทันที ทําใหเราสามารถคัดเลือกลักษณะที่

                     ตองการไดตั้งแตในระยะที่เปนแฮพลอยด ซึ่งเปนการเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดเลือกอีกวิธีหนึ่ง


                                 7.  สายพันธุแทที่ผลิตจากตนแฮพลอยดมีประโยชนอยางยิ่งในการทําแผนที่ยีนที่

                     เรียกวา แผนที่ยีโนม (genome mapping) เพื่อหาตําแหนงของยีนที่ควบคุมลักษณะทางคุณภาพ (major
                     gene) หรือลักษณะทางปริมาณ (quantitative trait loci หรือ QTL) โดยปกติการทําแผนที่ยีนจะอาศัย

                     ประชากรที่มีการกระจายตัวของลักษณะตาง ๆ  (segregating population) หรือประชากรชั่วที่ 2 ที่ได

                     จากการผสมพันธุระหวางพอแมที่มียีนแตกตางกัน การใชประชากรของสายพันธุแทที่ผลิตจากตน
                     แฮพลอยดในการหาตําแหนงของยีน จะใหขอมูลที่แนนอนและนาเชื่อถือกวา ทั้งนี้เนื่องจากการ

                     แสดงออกของลักษณะที่อยูกึ่งกลาง (intermediate phenotypic expression)  ที่เกิดจากยีนในสภาพ

                     เฮตเทอโรไซกัสจะถูกขจัดทิ้งไป ยีนแตละคูจะมีการกระจายตัวในอัตราสวน 1 : 1  สําหรับทั้ง

                     เครื่องหมายโมเลกุล (molecular marker) (เชน RFLP, SSR, EST) และลักษณะที่แสดงออกของพืช
                     (phenotype) ปจจุบันมีการนําสายพันธุแทที่ผลิตจากตนแฮพลอยดมาใชในการทําแผนที่ยีโนมของพืช

                     บางชนิด เชน ขาว ขาวบารเลย และเรฟซีด (oil rape seed) (Phillips and Vasil, 2001)
   157   158   159   160   161   162   163   164   165   166   167