Page 11 -
P. 11
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
(UN News, 2013) ผลกระทบที่ตามมาคือในปี ค.ศ. 2050 ประชากรโลกจะมี
ความต้องการอาหารเพิ่มขึ้น 70% จากปัจจุบัน ท าให้ประชากรโลกโดยเฉพาะ
ประชากรที่อาศัยภายในเมืองเกิดความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญกับสภาวะการขาด
แคลนอาหารรวมไปถึงความไม่ปลอดภัยทางอาหารที่เกิดจากการปนเปื้อนจาก
ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และกระบวนการขนส่ง ความท้าทายในการท าเกษตรกรรม
เพื่อสร้างอาหารในอนาคตคือ พื้นที่เพาะปลูกธรรมชาติถูกจ ากัด การ
เปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาติที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น
แสดงให้เห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของระบบการผลิตอาหารในอนาคต
การเกษตรซึ่งมีบทบาทส าคัญต่อการด ารงชีพของมนุษย์ จึงมีแนวโน้มที่จะ
ย้อนกลับมาอยู่ในเมือง และปรากฏตัวอย่างในเมืองใหญ่หลายประเทศในโลก
ตะวันตก เกิดกระแสการท าเกษตรในเมือง (Urban Agriculture) เพื่อลด
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พัฒนาพื้นที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในเมือง เพื่อสร้าง
อาหารปลอดภัย รวมไปถึงแนวทางการท าเกษตรกรรมบนอาคารและภายใน
อาคารเพื่อรองรับช่วงเกิดภัยธรรมชาติ เกษตรกรรมเริ่มกลับมามีบทบาท
ความส าคัญในพื้นที่เมืองหลังจากที่มีการตะหนักเรื่องการขาดแคลนอาหารที่
จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ทศวรรษหน้าโดยเฉพาะในอเมริกาและยุโรป กลุ่มประเทศ
ที่มีอัตราการบริโภคสูงกว่าประเทศที่ก าลังพัฒนา ซึ่งเหลือพื้นที่ไม่เพียงพอที่จะ
ผลิตอาหารเลี้ยงประชากรในเมือง จึงต้องการสร้างความมั่นคงและการเข้าถึง
อาหารปลอดภัยให้แก่ประชาชนชาวเมือง
ในการที่จะท าให้เกษตรกรรมกลับมาอยู่ในเมือง นักผังเมืองควรมีส่วน
ในการก าหนดพื้นที่เพื่อบริเวณเหล่านี้ ในระดับอาคารที่อยู่อาศัย อาคาร
พาณิชย์ต่างๆ พื้นที่สาธารณะต่างๆ ผู้ประกอบวิชาชีพออกแบบ สถาปนิก
ภูมิสถาปนิก จะต้องเข้ามามีบทบาทกับกระแสหรือแนวโน้มข้างต้น
นอกเหนือไปจากวิชาชีพเกษตรกรรม ดังแนวทางที่กลุ่มนักวิจัยจ า ก
Department of Architectural Science ม ห าวิท ย าลั ย Ryerson ใน
Canada รวบรวมไว้ในหนังสือ Carrot City , Creating places for Urban
Agriculture (Gorgolewski et al., 2011) ซึ่งสอดคล้องกับ (พาสินี, 2557)
2