Page 85 -
P. 85
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ตารางที่ 6.7 เปรียบเทียบปริมาณผลผลิตและมูลค่าต่อหน่วยของกุ้งก้ามกรามที่เพาะเลี้ยง
ในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนในปี 2554
อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ สหภาพพม่า มาเลเซีย กัมพูชา
ไทย
รายการ
ผลผลิต (พันตัน) 19.347 0.617 8.500 0.009 4.233 0.334 0.140
มูลค่าต่อหน่วย 4.92 7.42 4.00 2.97 5.50 9.06 10.00
(เหรียญสหรัฐ/กก.)
ที่มา : ค�านวณจากข้อมูลของ Food and Agriculture Organization (2010)
กุ้งก้ามกรามเป็นสัตว์น�้าจืดที่ขายได้ราคาสูง ประเทศไทยมีผลผลิตมกกว่าประเทศสมาชิก
อาเซียนอื่น น่าจะมีโอกาสส่งออกไปประเทศที่มีต้นทุนการผลิตสูงกว่า ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย
และ กัมพูชา ส่วนสหภาพพม่าแม้จะมีมูลค่าต่อหน่วยสูงกว่าไทยแต่ก็มีผลผลิตที่ท�าประมงได้จาก
แหล่งน�้าธรรมชาติอยู่มาก ปัญหาในการส่งออกกุ้งก้ามกรามของไทยคือหากส่งออกในลักษณะ
ไม่ติดหัวกุ้งก็จะมีการสูญเสียน�้าหนักมาก กุ้งก้ามกรามที่ไทยเลี้ยงได้มีขนาดเป็นรองกุ้งก้ามกราม
ของสหภาพพม่าและกุ้งก้ามกรามที่เลี้ยงได้ในประเทศไทยมีขนาดเล็กลง เฉพาะในภูมิภาคอาเซียน
ไทยเป็นผู้ส่งออกสุทธิ ส่งออกประมาณปีละสามร้อยตัน ประเทศปลายทางที่ส�าคัญคือเวียดนาม
กุ้งก้ามกรามที่ส่งออกจากไทยส่งไปเวียดนามเกือบทั้งหมด และมีแนวโน้มส่งออกเพิ่มขึ้น นอกจาก
เวียดนามยังมีการส่งออกไปอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และสหภาพพม่า แต่มีปริมาณส่งออก
ไปแต่ละประเทศไม่ถึงสิบตันโดยเฉพาะที่ส่งไปสหภาพพม่ามีน้อยมากมีเพียงประมาณห้าสิบ
กิโลกรัมต่อปี และมีเฉพาะที่ส่งออกไปอินโดนีเซียเท่านั้นที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนการน�าเข้า
ประเทศไทยน�าเข้าจากสหภาพพม่าเพียงประเทศเดียว คาดว่ากุ้งก้ามกรามที่น�าเข้าจากสหภาพ
พม่าจะเป็นที่ได้จากแหล่งน�้าธรรมชาติมากกว่าที่จะมาจากการเพาะเลี้ยง ปริมาณน�าเข้าน้อยกว่า
สามสิบตันต่อปีโดยเฉลี่ยและมีแนวโน้มลดลง
ตลาดในอาเซียนที่ประเทศไทยมีโอกาสในการค้ากุ้งก้ามกรามคือ เวียดนาม แต่คู่แข่ง
ทางการค้ากุ้งก้ามกรามของไทยก็น่าจะเป็นเวียดนามเช่นกันแม้ผลผลิตของเวียดนามจะยังเป็น
รองอยู่มาก
จากตารางที่ 6.8 ผลผลิตต่อไร่จากการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามอยู่ในช่วงสามร้อยถึงสี่ร้อยกิโลกรัม
ต่อไร่ มียกเว้นการเลี้ยงที่กาฬสินธุ์ในปี 2545 ที่มีผลผลิตเพียง 144 กก./ไร่ แต่ในปี 2551
ก็เพิ่มขึ้นเป็น 430 กก./ไร่ ต้นทุนการเพาะเลี้ยงเป็น 103 - 204 บาท/กก. ต่างกันตามพื้นที่
เพาะเลี้ยง ต้นทุนที่ส�าคัญคือ ค่าอาหาร ซึ่งเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของต้นทุนรวม อันดับที่สอง คือ ค่าแรงงาน
เป็นประมาณหนึ่งในห้าของต้นทุนรวม ราคาขายมีการแกว่งขึ้นลงในทิศทางตรงกันข้ามกับปริมาณ
ผลผลิตที่ได้ โดยรวมราคามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และเกษตรกรยังสามารถท�าก�าไรสูงขึ้น เกษตรกร
ผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามในพื้นที่ศึกษาจังหวัดนครปฐมสามารถขายกุ้งได้ราคาสูงเนื่องจากการคัดขนาดกุ้ง
ในการจับกุ้งขาย ทยอยจับโดยคัดขนาดที่ขายได้ราคาดี
76 >> สถานภาพการเพาะเลี้ยงสัตว์น�้าไทยในบริบทของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน