Page 13 -
P. 13
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
12
ระบบพรรคการเมือง
ระบบพรรคการเมืองแบ่งได้เช่นเดียวกับระบอบการปกครอง คือ ระบบพรรคแบบเผด็จการ
กับแบบประชาธิปไตย ดังนี้ (พฤทธิสาณ ชุมพล, 2540)
1. ระบบพรรคการเมืองแบบเผด็จการ มีระบบพรรคการเมืองประเภทที่กติกาทางการเมือง
ไม่เปิดให้มีการแข่งขัน แบ่งได้ 2 ลักษณะ คือ
1) ระบบพรรคเดียวหรือเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จ มีความเป็นอํานาจนิยมสูงมีพรรค
การเมืองพรรคเดียวเป็นรัฐบาลตลอดกาล นโยบายจะถูกกําหนดโดยผู้นําระดับสูงของพรรค เช่น
พรรคคอมมิวนิสต์ในจีนหรือในสหภาพโซเวียต ระบบพรรคเดียวนี้ไม่จําเป็นต้องมีอุดมการณ์
คอมมิวนิสต์อาจครอบงําโดยทหาร เช่น พม่าหรืออียิปต์
2) ระบบพรรคหลักครอบงําหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแบบ Corporatist มีลักษณะความ
เป็นอํานาจนิยมเช่นกันแต่อ่อนกว่า โดยให้มีพรรครองอื่น ๆ ได้ แต่มีข้อแม้ว่าจะไม่ท้าทายอํานาจ
ครอบงําของพรรคหลักในการปกครอง เช่น อินโดนีเซียในสมัยของประธานาธิบดีซูฮาร์โต หรือ
ยูโกสลาเวีย
2. ระบบพรรคการเมืองแบบประชาธิปไตย มีระบบพรรคการเมืองที่เปิดโอกาสให้มีการ
แข่งขันระหว่างพรรค แบ่งได้ 5 ลักษณะ คือ
1) ระบบพรรคหลัก มีพรรคการเมืองเดียวที่ชนะการแข่งขันหรือการเลือกตั้งมาโดยตลอด
สามารถเข้ามาเป็นรัฐบาลได้เป็นส่วนใหญ่ มักเกิดขึ้นในประเทศที่เพิ่งจะได้รับการปลดปล่อยจากการ
เป็นอาณานิคมของประเทศตะวันตก เช่น พรรคคองเกรสในอินเดีย
2) ระบบสองพรรค มีพรรคการเมืองสําคัญ ๆ อยู่ 2 พรรคเท่านั้น ที่สามารถชนะการ
เลือกตั้งสับเปลี่ยนกันดํารงอํานาจในการปกครองประเทศอยู่เป็นประจํา โดยที่พรรคทั้งสองมี
อุดมการณ์ไม่ขัดแย้งกันมากนัก เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ
3) ระบบหลายพรรค มีพรรคการเมืองหลายพรรคที่มีอุดมการณ์เป็นกลาง ๆ ไม่มีพรรคใด
สามารถได้เสียงข้างมากเด็ดขาด รูปแบบรัฐบาลจึงต้องเป็นรัฐบาลผสม 2 พรรคขึ้นไป เช่น เยอรมนี
เบลเยี่ยม สวีเดน เดนมาร์ค เนเธอร์แลนด์ รวมทั้งประเทศไทย
4) ระบบหลายพรรคสุดโด่ง มีพรรคการเมืองหลายพรรคที่มีอุดมการณ์หรือนโยบาย
แตกต่างกันมากเป็นขั้วแห่งความคิด มีทั้งพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์แบบคอมมิวนิสต์ (ซ้ายจัด)
และอนุรักษ์นิยมแบบฟาสซิสต์ (ขวาจัด) ทําให้มีการแข่งขัน ก่อให้เกิดความรุนแรงเสียหายและ
ปั่นป่วนต่อระบบ บางพรรคการเมืองมีสถาบันศาสนาครอบงําหรือมีอิทธิพลอยู่เหนือ เช่น อิตาลีและ
ชิลีในอดีต