Page 10 -
P. 10
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
9
ชิเซโร กล่าวว่า รัฐเป็นประชาคมทางจิตใจ ทุกคนเป็นเจ้าของรัฐโดยเท่าเทียมกันและอยู่
ภายใต้กฎหมายเดียวกัน เขาเรียกรัฐว่า เร โปพูลิ (Res Populi) ซึ่งหมายความว่า กิจการของ
ประชาชน เพื่อเน้นว่า รัฐเป็นสมบัติร่วมกันของทุกคน สมาชิกที่อาศัยอยู่ในรัฐนั้นได้รับผลประโยชน์
จากการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และรัฐที่ดีจะต้องให้มีรัฐบาลที่ยุติธรรม
ชัยอนันต์ สมุทวณิช ได้รวบรวมความหมายของคําว่ารัฐ โดยที่สํานักมาร์กซ์ซิสต์ (Marxism)
เห็นว่า รัฐเป็นเครื่องมือของชนชั้นปกครองสามารถใช้ประโยชน์ได้ตามใจชอบ โรเจอร์ เบนจามิน
(Roger Benjamin) และเรมอนด์ ดูวอล (Raymond Duwall) ให้ความหมายของรัฐไว้ 4 แนว คือ
1. รัฐในฐานะที่เป็นรัฐบาล หมายความถึง กลุ่มบุคคลที่ดํารงตําแหน่งที่มีอํานาจในการตัดสินใจ
ในสังคมการเมือง
2. รัฐในฐานะที่เป็นระบบราชการหรือเครื่องมือทางการบริหารที่เป็นปึกแผ่น และเป็น
ระเบียบทางกฎหมายที่มีความเป็นสถาบัน
3. รัฐในฐานะที่เป็นชนชั้นปกครอง
4. รัฐในฐานะที่เป็นโครงสร้างทางอุดมการณ์
เจ พี เน็ตเทิล (J.P.Nettle) กล่าวว่า
1. รัฐ หมายถึง องค์กรที่รวมศูนย์การทําหน้าที่และโครงสร้างไว้เพื่อที่จะปฏิบัติการได้อย่าง
ทั่วด้าน เป็นแนวคิดดั้งเดิมที่เน้นเรื่องอํานาจอธิปไตยและรัฐอธิปไตย กล่าวคือ รัฐมีฐานะสูงกว่า
องค์กรอื่น ๆ ในสังคม อํานาจของรัฐเป็นอํานาจตามกฎหมาย แนวคิดนี้จึงเชื่อมโยงรัฐกับกฎหมาย
ระบบราชการ และรัฐบาล
2. รัฐในฐานะที่เป็นหน่วยหนึ่งในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หมายถึง การที่รัฐมีอิสระใน
การดําเนินกิจการต่าง ๆ กับรัฐอื่น ๆ ซึ่งหากรัฐมีอิสระในการดําเนินกิจการระหว่างประเทศสูงก็จะมี
ความเป็นรัฐ (Stateness) สูง
3. รัฐในฐานะที่เป็นองค์กรที่มีความเป็นอิสระ เป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่มีลักษณะเด่น
เฉพาะตัว
4. รัฐในฐานะที่เป็นปรากฏการณ์ทางสังคม-วัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่มีวิวัฒนาการ ซึ่งคิดว่ารัฐ
กับชาติเป็นเรื่องเดียวกัน
นิคอส พอลเลนซัส (Nicos Poulantzas) เห็นว่า รัฐ เป็นความสัมพันธ์ทางสังคมแบบชนชั้น
และกระบวนการใช้อํานาจผ่านทางสถาบันต่าง ๆ เช่น รัฐบาล ศาล และตํารวจ
เฟรนซ์ ออฟเฟนไฮเมอร์ (Franz Oppenheimer) มีความเห็นว่า รัฐ เป็นองค์กรของการใช้
วิธีการทางการเมืองซึ่งพัฒนาขึ้นเมื่อวิธีการทางเศรษฐกิจได้สร้างสิ่งของขึ้นมามากพอสําหรับสนอง