Page 82 -
P. 82

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี




                       ปฏิกิริยาลูกโซ                                                                  73





                       3.2  ปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบลูกโซ (Chain Polymerization)

                              ปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบลูกโซเปนปฏิกิริยาการเติมหรือเพิ่ม (addition)  จากการ

                       รวมตัวของโมโนเมอร (monomer)  และมีกลไกแบบปฏิกิริยาลูกโซ  โดยขั้นเริ่มตนจะทําใหเกิดโม
                       โนเมอรที่วองไว (activated monomer) ซึ่งเปนตัวนําพาลูกโซนั่นเอง ตอจากนั้นโมโนเมอรที่วองไว

                       นี้จะชนกับโมโนเมอรตัวอื่นเพื่อเชื่อมตอกันไปเรื่อยๆ ดังนั้นปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบลูกโซจึง

                       ไดมาจากการขยายตัวอยางรวดเร็วของแตละโมโนเมอรที่วองไวหรือแตละลูกโซ   ซึ่งมีอัตราการ
                       เจริญของสายโซพอลิเมอรประมาณหลายพันโมโนเมอรตอวินาที (หรือนอยกวา)  และปฏิกิริยาจะ

                       สิ้นสุดเมื่อพอลิเมอรกลายเปนหมูที่ไมวองไว (unreactive)  สวนใหญจะเปนปฏิกิริยาลูกโซแบบ

                       อนุมูล (radical chain)  ดังตัวอยางเชน ปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันของการรวมตัวของอีธีน (ethene)

                       เมทธิลเมทธาคริเลท (methyl methacrylate) และสไตรีน (styrene) และอาจเปนปฏิกิริยาลูกโซแบบ
                       ไอออนบวกหรือลบก็ไดขึ้นกับชนิดของโมโนเมอร



                              ตัวอยางปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันจากการรวมตัวของโมโนเมอร (M) ดังสมการตอไปนี้

                                                   n M     ⎯ →⎯      Mn                           (3.21)
                       เมื่อ  n  =  จํานวนโมโนเมอรในสายโซพอลิเมอรหนึ่ง

                       สําหรับปฏิกิริยาหนึ่งๆ จะไดสายโซพอลิเมอรที่มีคา n ตางๆ กัน โดยคา n สวนใหญจะถูกกําหนด

                       โดยสภาวะและชนิดของปฏิกิริยา


                       กลไกเปนดังนี้
                                                             k
                                                              i
                       ขั้นเริ่มตน                I       ⎯ →⎯  2 .R                             (3.22)
                                              M  +  .R     ⎯ →⎯   .M         (fast)               (3.23)

                       เมื่อ  k  =  คาคงที่อัตราของขั้นเริ่มตน
                            i
                         I  =  ตัวเริ่มตน (initiator)

                         .R   =  อนุมูลของตัวเริ่มตน (radical of initiator)

                          .M  =  อนุมูลโมโนเมอร (monomeric radical) หรืออาจเปนตัวนําพาลูกโซที่เปนไอออนบวก

                                 หรือไอออนลบ
   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87