Page 44 -
P. 44
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
24
หรือในโอกาสพบปะสังสรรค์ระหว่างผู้นํา พิธีแต่งงาน เทศกาลและงานประเพณีที่จัดขึ้น หรือในกิจกรรม
ต่าง ๆ ที่ต้องการ แสดงให้เห็นถึงความเป็นไทยอย่างชัดเจน
6.3 เครื่องแต่งกายของไทย เป็นมรดกทางวัฒนธรรมประจําชาติที่มีการออกแบบและการตัดเย็บ
เป็นลักษณะเฉพาะ แสดงออกถึงความเป็นเอกลักษณ์ไทยได้อย่างกลมกลืนเหมาะสมกับรูปร่างและกิริยา
อย่างไทย การแต่งกายของไทย มีประประวัติและพัฒนาการมาเกือบ 1,400 ปี ตั้งแต่ ยุค "มาลานําไทย"
แต่ละยุคแต่ละสมัยล้วนมีรูปแบบการแต่งกายที่เป็นของตนเอง ตั้งแต่สมัยน่านเจ้า (พ.ศ. 1161 - 1194)
หญิงผู้ดีนุ่งซิ่นไหม สมัยเชียงแสน (พ.ศ. 1661 - 1731) หญิงไทยนุ่งซิ่นถุง และมีการทอผ้ามีลวดลาย
ตกแต่งต่างออกไป สมัยสุโขทัย (พ.ศ. 1781 - 1826) หญิงนุ่งผ้าสูงพ้นดิน ๒ - ๓ นิ้ว (กรอมเท้า) และห่ม
ผ้าสไบ สมัยอยุธยา (พ.ศ. 1893 - 2310) เป็นยุคที่มีการปกครองนานถึง 413 ปี การแต่งกายสมัยอยุธยา
มีการปรับเปลี่ยนจากนุ่งผ้าซิ่น ห่มสไบ ต่อมาปรับเปลี่ยนเป็นโจงกระเบน และใส่ผ้ารัดอกแบบตะเบงมาน
บางช่วงเวลามีการแต่งกายด้วยการนุ่งโจงกระเบนใส่ผ้าแถบรัดอก และต่อมามีการสวมใส่เสื้อคอกลม
แขนกรอมศอก สตรีนุ่งโจงกระเบนสวมเสื้อแขนกระบอก และห่มสไบเฉียง ต่อมาสมัยรัตนโกสินทร์
เครื่องแต่งกายทั้งหญิงชายนิยมนุ่งโจงกระเบน ฝ่ายหญิงพาดสไบ ส่วนฝ่ายชายพาดผ้าปิดไหล่ห้อยชายผ้า
ไว้ด้านหลัง จนกระทั้งถึงสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา จึงเริ่มประยุกต์การแต่งกายทั้งหญิงชายให้เข้ากับ
สากลตะวันตก เช่น รัชกาลที่ 6 หญิงนุ่งโจงกระเบนแต่สวมเสื้อลูกไม้แขนยาวปล่อยชายเสื้อคาดเข็มขัด
ทับตามแบบการแต่งกายของชาวตะวันตก (นฤมล ปราชญ์โยธิน, 2525: 7, สมภพ จันทรประภา, 2526: 28
และ อภิโชค แซ่โค้ว, 2542: 22) ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าการแต่งกายของคนไทยมีพัฒนาการเปลี่ยนไปตามยุค
สมัยที่มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ เช่น ชาวอินเดีย จีน และชาวตะวันตก จนปัจจุบัน "ยุค
แห่งเทคโนโลยีข่าวสาร" การแต่งกายจึงร่วมสมัยมากขึ้น
พัฒนาการเครื่องแต่งกาย สมัยรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ทรงเป็นผู้นําแบบอย่างการแต่งกายอย่างไทย ทรงพระราชดําริชุดไทยพระราชนิยมสําหรับสตรีไทยที่ใช้
ในโอกาสต่าง ๆ ขึ้นหลายชุด และทรงเป็นผู้นําในการใช้ผ้าไทยมาตัดเย็บเป็นเครื่องแต่งกายตามสมัยนิยม
ซึ่งเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเสด็จประพาสประเทศ
สหรัฐอเมริกาและประเทศในสหภาพยุโรปเมื่อป ี พ.ศ. 2503 พระองค์ท่านเห็นว่าชุดแต่งกายไทยยังไม่มี
แบบฉบับตามตัวอย่างของประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย เช่น ส่าหรีของ
อินเดีย กิโมโนของญี่ปุ่น หรือเครื่องแต่งกายของจีน จึงโปรดให้มีการค้นคว้าเรื่องเครื่องแต่งกายในสมัย
ต่าง ๆ ขึ้น และดัดแปลงเป็นชุดไทยพระราชนิยมหลายชุด คือ ชุดไทยจักรพรรดิ์ ชุดไทยจักรี ชุดไทยเรือน
ต้น ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยดุสิต ชุดไทยศิวาลัย ชุดไทยบรมพิมาน และชุดไทยจิตรลดา โดยตัดเย็บจาก
ผ้าภูมิปัญญาไทย ทําให้ชุดไทยประจําชาติได้รับความนิยมในหมู่สตรีไทยและสังคมทั่วไป ทั้งยังได้
เผยแพร่ชื่อเสียงความงดงามด้วยศิลปะทั้งปวงไปยังนานาประเทศ (วิทย์ บัณฑิตกุล, 2553) นอกจากนี้