Page 41 -
P. 41
ิ
ิ
ุ
ั
ิ
ิ
์
ื
โครงการพัฒนาหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรต สมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี
ี
ี
่
่
่
ู
้
ี
ี
อู๊ดไมใช่ผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายเพราะนำยอูดไมมอ ำนำจแหงมลหนทจะบังคับใหมกำรใชเงิน
้
๊
้
่
่
็
้
ตำมตั๋วเงินได เพราะสัญญาซื้อขายยาเสพติดเปนสัญญาทีต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย ท าให้สัญญา
็
้
นั้นตกเปนโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 ดังนี นายเปนต่อจึงสามารถยกข้อ
็
ต่อสู้ว่านายอู๊ดไม่ใช่ผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายมาปฏิเสธความรับผิดได้
ี
้
ในประเด็นเช่นว่านี ได้เคยมีค าพิพากษาศาลฎีกาทีรับรองหลักการนีไว้ คือ ค ำพิพำกษำฎกำท ี ่
่
้
็
็
่
่
2932/2519 โจทก์ซึงเปนผู้ทรงเช็คพิพาทฟองให้จ าเลยช าระเงินตามเช็ค ในฐานะที่จ าเลยเปนผู้สั่งจาย
้
่
่
จ าเลยให้การว่า จ าเลยสั่งจายเช็คพิพาทให้ ป. เพื่อนาไปใช้ประโยชนเกี่ยวกับทีดิน ป. เอาเช็คดังกล่าว
์
้
่
่
็
็
ไปช าระให้โจทก์เปนค่าซือหิน 2 ก้อน ทีโจทก์อ้างว่าเปนเหล็กไหลโดยมีเงือนไขว่า ป. ขอนาหินดังกล่าว
่
่
่
์
ไปให้ผู้เชียวชาญพิสูจนก่อนว่าใช่เหล็กไหลหรือไม ถ้าใช่จึงจะรับซื้อ ถ้าไมใช่จะเอามาคืนและรับเช็คคืน
ื
้
่
้
ผลการพิสูจนปรากฏว่าไมใช่เหล็กไหล สัญญำซอขำยไมเกิดขึน โจทก์ตองคนเช็คให ป. โจทก์จึงไม่
ื
้
้
่
์
้
่
มีอ ำนำจฟอง ดังนี เท่ากับจ าเลยต่อสู้ว่าสิทธิของโจทก์ทีได้เช็คพิพาทมาไว้ในความครอบครอง อัน
้
่
่
่
เนืองมาจากการซื้อขายดังกล่าวนั้นไมสมบูรณซึ่งท าให้โจทก์ไมมีสิทธิเรียกเงินตามเช็คทีฟองในฐานะผู้
่
้
์
่
ุ
้
ั
็
่
ทรง เพราะไมมีมูลหนีนั่นเอง อันเปนการยกข้อต่อสู้ที่มีต่อโจทก์ซึงเปนผู้ทรงคนปจจบัน มิใช่ข้อต่อสู้ที ่
็
56
จ าเลยมีต่อผู้ทรงคนก่อนๆ จึงไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916
้
็
ค าพิพากษาฎีกานีเปนเรื่องทีจ าเลยเปนผู้สั่งจ่ายต่อสู้ว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงโดยชอบเพราะโจทก์ไม ่
็
่
้
มีอ านาจตามมูลหนี เพราะสัญญาระหว่างโจทก์ และ ป. เปนสัญญาซือขายที่ยังไมเกิดขึ้น กรณีนีศาล
็
่
้
้
้
ฎีกาเห็นว่า ข้อต่อสู้ทีจ าเลยยกขึนเปนข้อต่อสู้ทีมีต่อผู้ทรงคนปจจุบันเองเปนข้อต่อสู้ทียกขึนมาได้
็
้
ั
็
่
่
่
ี
ี
่
ี
่
ี
นอกจากนี ยังมีค ำพิพำกษำฎกำท 2106/2556 และค ำพิพำกษำฎกำท 111/2556 ซึงศาล
่
้
วินิจฉัยไว้ท านองเดียวกัน
่
ี
ี
ในค ำพิพำกษำฎกำท 2106/2556 ศาลอธิบายว่า “ตามมาตรา 904 และ 905 ผู้ทรงตั๋วเงินสั่ง
จายแก่ผู้ถือ ผู้ถือซึ่งมีตั๋วเงินไว้ในครอบครองเปนผู้ทรง แต่ต้องเปนผู้มีตั๋วเงินไว้ในครอบครองโดยชอบ
่
็
็
ด้วยกฎหมายและโดยสุจริต คดีนีโจทก์ฟองว่าโจทก์เปนผู้ทรงเช็คพิพาท โดยจ าเลยทั้งสองลงลายมือชื่อ
้
็
้
่
่
่
ั
็
้
สั่งจาย และส่งมอบแก่โจทก์เพือเปนการช าระหนีเงินกู้ยืม แต่ข้อเท็จจริงฟงไมได้ว่าจ าเลยทั้งสองส่งมอบ
เช็คพิพาทแก่โจทก์เพือช าระหนีเงินกู้ยืม โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทโดยสุจริต
้
่
จากค าพิพากษานี จะเห็นได้ว่าเปนกรณีทีจ าเลยต่อสู้ว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงโดยชอบเพราะไมมีมูล
็
่
้
่
็
็
หนีทีจะมาบังคับกับจ าเลยได้ แม้เช็คนีจะเปนเช็คผู้ถือ โดยโจทก์เปนผู้ครอบครองเช็คนั้นไว้ก็ตาม
้
่
้
้
ี
้
ในค ำพิพำกษำฎกำท 111/2556 จ าเลยให้การว่ามูลหนีตามเช็คพิพาทเปนการค าประกันการ
็
่
ี
่
้
ช าระหนีค่าสินค้าตามฟองทีห้างหุ้นส่วนจ ากัด ก. สั่งซื้อจากบริษัท ห. ซึ่งมีโจทก์เปนกรรมการผู้จัดการ
้
็
ี่
56 รายละเอียดของมาตรา 916 จะได้อธิบายในบทท 5
40
เอกสารประกอบการสอนวิชากฎหมายว่าด้วยตั๋วเงิน โดย อ. ดร. ชีวิน มัลลิกะมาลย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์