Page 37 -
P. 37

ุ
                                                   ิ
                                               ์
                                ื
                                                              ิ
                                                                               ั
           โครงการพัฒนาหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรต สมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร                  ี
                                   ิ
                                            ิ

                               ้
               ของมาตรานี มีเนือความว่า เมื่อใดมีการสลักหลังลอยแล้วยังมีการสลักหลังต่อไปอีก ผู้ลงชื่อสลักหลังที่
                          ้
                                                           50
                      ้
               กล่าวนีให้ถือว่าเปนผู้ได้ตั๋วไปโดยการสลักหลังลอย
                               ็
                          ้
                       ดังนี ค าว่า “สลักหลังรายที่สุด” ตามมาตรา 905 วรรคแรก หมายถึง การสลักหลังที่กระท าต่อ
                                       ้
               จากการสลักหลังลอย ดังนี จึงถือว่านางสาวพอใจเปนผู้ได้ตั๋วไปจากการสลักหลังลอยเพราะเปนผู้ทีท า
                                                                                                       ่
                                                                                                  ็
                                                             ็
                                    ่
               การสลักหลังต่อจากผู้ทีสลักหลังลอย
                                  ่
                       ในประเด็นเรืองการสลักหลังรายที่สุดเปนการสลักหลังลอยนีมีค าพิพากษาฎีกาทีนาสนใจ คือ
                                                                                              ่
                                                                            ้
                                                                                                ่
                                                          ็
                            ี
                                                                        ็
                                 ี
                                                      ่
                                                                 ่
                                 ่
               ค ำพิพำกษำฎกำท 1952/2537 จ าเลยสั่งจายเช็คระบุชือ ช. เปนผู้รับเงินและขีดฆ่าค าว่า “หรือผู้ถือ”
                                       ่
                                                            ่
                                                                         ่
               ออก และ ช. ได้ลงลายมือชือไว้ด้านหลังเช็ค แต่ไมได้ความว่าลงชือไว้ในฐานะอะไร ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า
                                                        ่
               “การที่โจทก์มีเช็คไว้ในครอบครอง แต่โจทก์ไมสามารถแสดงให้ปรากฏสิทธิด้วยการสลักหลังไม่ขาดสาย
                                  ็
               ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์เปนผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย”
                       อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากมาตรา 919 จะพบว่า ช. ได้กระท าการสลักหลังลอย ดังนั้น เมื่อ
               โจทก์ครอบครองเช็คหลังจากการสลักหลังลอย โจทก์ก็ย่อมมีฐานะเปนผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย ดังที    ่
                                                                           ็
                                                          ้
                                    ้
               ได้อธิบายไปในหัวข้อนี แต่อย่างไรก็ตาม ในคดีนีศาลวินิจฉัยว่าโจทก์ไมใช่ผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย
                                                                              ่
                                                                      ่
                                                                                           51
               เพราะโจทก์ไปอ้างว่า “โจทก์รับเช็คพิพาท ในฐานะผู้รับเงินไมใช่ในฐานะผู้รับสลักหลัง”  ศาลจึงเห็นว่า
               โจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเพราะโจทก์ไม่ใช่ผู้รับเงิน
                                             ์
                       ในประเด็นนี ท่านสมบูรณ บุญภนนท์ ได้เขียนหมายเหตุท้ายฎีกาว่า จากหลักกฎหมายตั๋วเงิน
                                 ้
               แล้วโจทก์สามารถเปนผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายได้ แต่โจทก์เบิกความสับสนท าให้ศาลเห็นว่าโจทก์
                                  ็
               ไม่ใช่ผู้ทรง
                         52
                                                    ้
               2.2.2.2 ผลของกำรเปนผู้ทรงโดยชอบดวยกฎหมำย
                                   ็
                       มาตรา 905 วรรคสองรับรองว่า บุคคลที่เปนผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายไมจ าเปนต้องคืนตั๋ว
                                                             ็
                                                                                              ็
                                                                                          ่
                            ่
                                        ่
               ให้แก่บุคคลทีท าตั๋วหาย (ซึงกฎหมายใช้ค าว่า “ผู้...ต้องปราศจากตั๋วเงินไปจากครอบครอง”) เว้นแต่
               บุคคลทีเปนผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายได้ตั๋วมาโดยไมสุจริต หรือ ได้มาโดยประมาทเลินเล่ออย่าง
                                                                  ่
                         ็
                       ่
                                                     ่
                        ่
               ร้ายแรง ซึงเปนตามมาตรา 905 วรรคสองทีบัญญัติว่า
                           ็


                               ์
                                               ่
                                                     ้
               50  เสาวนีย์ อัศวโรจน (อ้างแล้วเชิงอรรถที 13) หนา 40
                       ์
               51  สมบูรณ บุณภินท์ (บรรณาธิการ), ค าพิพากษาฎีกา พ.ศ. 2537 เล่มที่ 6 ส านักงานส่งเสริมตุลาการ กระทรวงยุติธรรม
                     ์
                                     ้
               (รุ่งศิลปการพิมพ์ 2538) หนา 203
               52  เรื่องเดียวกัน หนา 204
                              ้
                                                                                                        36
                        เอกสารประกอบการสอนวิชากฎหมายว่าด้วยตั๋วเงิน โดย อ. ดร. ชีวิน มัลลิกะมาลย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42