Page 72 -
P. 72
ิ
ิ
ุ
ั
ิ
ื
์
ิ
โครงการพัฒนาหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรต สมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี
46
ี่
ี่
บทนี้เปนเรื่องพื้นที่ (site) ในความหมายของพื้นทการรับรูในงานศิลปะ ทพัฒนาไปสูพื้นที่ของ
ั
การติดตั้ง ซึ่งในพื้นทของการติดตั้งยอมมีความสัมพันธกบเรื่องเวลา และความหมายของพื้นที่วาง
ี่
ี่
ี
(space) ที่สัมพันธกับการรับรู แตผูเขียนเลือกใชคำวา พื้นท (site) ที่เปนกายภาพและมความสัมพันธ
กับแนวคิดและรูปแบบของงานศิลปะที่สงผลตอการติดตั้ง โดยเฉพาะศิลปะการจัดวาง (Installation
art) และสัมพนธกบคำวา Site – Specific พื้นที่เฉพาะที่หมายถึงพื้นที่ของการติดตั้งผลงานศิลปะ ซึ่ง
ั
ั
ี่
เนื้อหาในบทนี้เริ่มจากพื้นทในงานศิลปะกับมุมมองทางสุนทรียศาสตรของโรซาลิน เคราส (Rosalind
Krauss) นักวิจารณชาวอเมริกันและแคลร บิชอพ (Claire Bishop) ที่เปนทั้งนักวิจารณและนัก
ประวัติศาสตรศิลปชาวอังกฤษ ซึ่งหากกลาวถึงเรื่องพื้นที่ในงานศิลปะ พื้นทในงานแลนดอารต (Land
ี่
art) หรือเอิรธอารต (Earth art) นาจะเปนสิ่งที่เราตองทำความเขาใจถึงแนวคิดในการสรางสรรค ท ี่
สงผลตอเรื่องพื้นทกับการติดตั้งผลงาน รวมถึงงานประเภทศิลปะการจัดวาง (Installation art) และ
ี่
ตอมาไดพัฒนาการแสดงออกในรูปแบบผลงาน Immersive installation art ที่มีการขยายการให
ความหมายเรื่องพื้นที่ออกไปจากเดิม
พื้นที่ในงานศิลปะกับมุมมองทางสุนทรียศาสตร
ภาพผนังถ้ำในยุคกอนประวัติศาสตร (Pre-history) ถือเปนพื้นที่การแสดงออกอยางหนึ่งของ
ึ
มนุษยถ้ำ เพอใชสำหรับพิธีกรรมหรือบันทกเหตุการณสำคัญที่เกิดขึ้นในชวงเวลานั้น แตเนื่องจากพื้นท ี่
ื่
ใชสอยและสิ่งของตางๆ รอบตัวของมนุษยยังไมถกนิยามภาษา การจำแนกหนาที่และชื่อเรียกของสิ่ง
ู
ตางๆ ก็ยังไมถกนิยามขึ้นมาเชนกัน เมื่อมนุษยเริ่มมีภาษาใชในการสื่อสารและสามารถนิยามสิ่งของ
ู
ี่
ตางๆ ใหผูคนในสังคมนั้นสามารถเขาใจตรงกันหรือหานิยามรวมกันได โดยเฉพาะพื้นทในเชิงพิธีกรรม
ทางความเชื่อและศาสนา ทีมการติดตั้งผลงานจิตรกรรมและประติมากรรมแบบแทนบูชาในศาสนพิธี
ี
่
มีการสื่อความหมายที่สะทอนกับความเชื่อที่มนุษยมีรวมกัน พื้นที่การแสดงออกทางศิลปะเริ่มแยกตัว
เองออกจากพื้นทการติดตั้งในเชิงพิธีกรรม แตในแงความหมายของศิลปะยังเปนพื้นที่ทสำคัญในการ
ี่
ี่
สื่อสารความเชื่อและศรัทธาทมนุษยมีความสัมพันธในทุกระดับ เห็นไดจากศิลปะในยุคเรอเนซองส
ี่
(Renaissance) ที่พื้นที่ในงานศิลปะยังเปนพื้นที่รวมกันของความเชื่อทางศาสนาและความเปนมนุษย
ี่
ึ่
นิยมที่เนนอุดมคติของความเปนมนุษยมากขึ้น ซงพื้นทในงานศิลปะทั้งเชิงกายภาพและทางความคิด
่
ี
ยอมมการเปลียนแปลงไปตามยุคสมัย
ี่
พื้นทในงานศิลปะยุคเรอเนซองสที่วางอยูบนระนาบของผืนผาใบ บนผนังโบสถ หรือแมแตบน
ี
่
ุ
เพดานโคงแตมการใชเสนนำสายตาแบบมมมองทัศนียภาพแบบเสน (linear perspectives) ทีให
ความรูสึกถึงระยะและมิติของภาพที่ดูสมจริง เปนการนำเสนอความจริงผานงานจิตรกรรมในยุค
เรอเนซองซทมีการสรางภาพมีจุดรวมสายตาซึ่งสงผลตอการมอง และกำหนดขอบเขตของการรับรู
ี่
รวมถึงความจริงในงานศิลปะ จากหนังสือ วาดวยงานจิตรกรรม (De Pictura) ซึ่งตีพิมพครั้งแรกเปน