Page 85 -
P. 85

ิ
                                                ์
                                                                           ิ
                                     ิ
                                   ื
                                              ิ
                      โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
                                                           83

                         จะเห็นได้ว่าการเผาผลาญ Fatty acyl CoA ตามปฏิกิริยาทั้งสี่ของเบต้าออกซิเดชันจะได้ Fatty
                  acyl CoA ที่มีอะตอมคาร์บอนน้อยลงไป 2 อะตอม Acetyl CoA, FADH 2 และ NADH อย่างละโมเลกุล

                  Fatty acyl CoA (Cn) + CoASH + FAD + NAD + H 2O
                  Fatty acyl CoA (Cn-2) + CH3COSCOA + FADH 2 + NADH + H+

                         ดังนั้นกรดปาลมิติค (Palmitic acid) ซึ่งมีคาร์บอน 16 อะตอม เมื่อถูกเผาผลาญโดยวิธีการนี้ก็

                      ้
                  จะได 8 Acetyl CoA, 7FADH 2, 7NADHG และ 7H+
                  C 15H 31 COSCoA + 7CoASH + 7FAD + 7NAD+ + 7H 2O

                                                       +
                  8CH 3COSCoA + 7FADH 2 + 7NADH + 7H
                         แล้ว Acetyl CoA เมื่อเข้าสู่วัฏจักรเครบส์โดยสมบูรณ์จะให้ 24 ATP ส่วน NADH และ FADH
                  ก็จะให้ 3 และ 2 ATP ตามล าดับ ดังนั้นเมตาบอลิซึมของกรดปาลมิติคจะได้พลังงานถึง 30 ATP

                         ส าหรับการเผาผลาญกรดไขมันที่มีจ านวนอะตอมคาร์บอนเป็นเลขคี่ ซึ่งในธรรมชาติมีอยู่น้อย ก็

                  จะเกิดปฏิกิริยาเหมือนกันกับการเผาผลาญกรดไขมันที่มีจ านวนอะตอมคาร์บอนเป็นเลขคู่ คือ จะได้
                  Acetyl CoA หลายโมเลกุล แต่จะได้ Propionyl CoA อีกหนึ่งโมเลกุลซึ่งมีอะตอมคาร์บอน 3 ตัวไม่

                  สามารถเกิดเบต้า-ออกซิเดชันต่อไปได้อีก แต่จะท าปฏิกิริยากับ CO 2 กลายเป็น Methyl malonyl CoA
                  โดยใช้พลังงานจาก ATP ต่อจากนั้น Methyl malonyl CoA ก็จะเปลี่ยนเป็น Succinyl CoA ซึ่งจะถูก

                  ป้อนเข้าสู่วัฏจักรเครปส์ต่อไป
                         ดังนั้นคะตะบอลิสมของกรดไขมันที่มีจ านวนอะตอมคาร์บอนเป็นเลขคี่ จะต้องอาศัยเอนไซม์

                  เพิ่มขึ้นอีกสองตัวและถ้าหากกรดไขมันนั้นมีพันธะคู่อยู่ การออกชิเดชันก็จะเกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับกรด

                  ไขมันอิ่มตัวคือ จะมีการตัดอะตอมคาร์บอนออกครั้งละ 2 อะตอม ในรูปของ Acetyl CoA ไปเรื่อยๆ
                  จนถึงพันธะคู่ ถ้าพันธะคู่นั้นอยู่ในรูปทรานส์อยู่แล้วก็เกิดปฏิกิริยาต่อไปได้ แต่ถ้าพันธะคู่นั้นเป็นแบบซิส

                  (Cis-) ระหว่างอะตอม C2 – C3 (2,3-Cis) คือเป็น 2,3-cis-Enoyl CoA เมื่อสารนี้ท าปฏิกิริยาไฮเดรชัน

                  โดยเอนไซม์ Enoyl CoA hydratase ได้ D-3-Hydroxy acyl CoA แล้ว จะมีเอนไซม์ 3-methyl
                  malonyl mutase Hydroxy acyl epimerase เร่งปฏิกิริยาเปลี่ยนโครงสร้างเป็น L-3-Hydroxy acyl

                  CoA ซึ่งจะเกิดปฏิกิริยาต่อไปได้ตามวิถีเบต้า-ออกซิเดชั่น


                         2.2 การสังเคราะห์กรดไขมัน (Fatty acid synthesis)

                         การสังเคราะห์กรดไขมันจะเริ่มต้นจาก Acetyl CoA แล้วค่อยๆ เพิ่มจ านวนคาร์บอนขึ้นครั้งละ
                  2  อะตอม  จนได้กรดไขมันที่มีจ านวนคาร์บอนตามต้องการ  การสังเคราะห์กรดไขมันจะสังเคราะห์เมื่อ

                  เซลล์มีพลังงานเพียงพอและมี  Acetyl  CoA  เหลือใช้  แต่เอนไซม์ที่ใช้สังเคราะห์มีอยู่ในไซโตพลาสึม

                  ดังนั้นจึงจ าเป็นต้องน าเอา  Acetyl  CoA  ออกจากไมโตคอนเดรียมาอยู่ในไซโตพลาสึม  เพื่อสร้างกรด
                  ไขมัน


                   บทที่ 2   สารอาหารและเมตาบอลิซึมในร่างกายสัตว์
   80   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90