Page 34 -
P. 34

์
                                                                  ิ
                                                                              ิ
                            ื
                               ิ
                                          ิ
            โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
                                                         12
                ซึ่งแผนต่าง ๆ ที่ได้ทำการศึกษานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลและเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดแผน

            ยุทธศาสตร์การวิจัยเพื่อการพัฒนาศูนย์ความเชี่ยวชาญการวิจัยเชิงพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SECr) ทั้งสิ้น

            2.2 ข้อมูลบริบททางเศรษฐกิจของ าคใต  ้

                ภาคใต้มีเนื้อที่รวมประมาณ 44.2 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 13.8 ของเนื้อที่ทั้งประเทศ ประกอบด้วย 14
                                                                                                      ู
            จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตล
            ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส (สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาต, 2563) โดยมีโครงสร้าง
                                                                                   ิ
            ทางเศรษฐกิจมาจากภาคเกษตร 319,610 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 21.69 และภาคอุตสาหกรรม 219,369
            ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14.89 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคใต้ (Gross Regional Product, GRP) ณ ราคา

                                                                                                  ้
                                                                             ิ
                                                                                             ี่
            ตลาด ในปี พ.ศ. 2562 (สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาต, 2564) ทั้งนี้ พื้นทภาคใตยังคง
            พึ่งพาภาคการเกษตรและภาคการประมงเป็นหลัก พื้นที่ส่วนใหญ่จึงเป็นพื้นที่เกษตรกรรม โดยมีพืชเศรษฐกิจท ี่
            สำคัญ คือ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ประมง และไม้ผล โดยข้อมูลบริบททางเศรษฐกิจของพื้นที่ภาคใตมีรายละเอียด
                                                                                            ้
            ดังนี้

            2.2.1  าคเกษตร

                ภาคเกษตรถือเป็นภาคเศรษฐกิจหลักของภาคใต้มาโดยตลอด โดยในปี พ.ศ. 2563 ภาคใต้มีเนื้อท
                                                                                                       ี่
            ใช้ประโยชน์ทางการเกษตร 21,748,728 ไร่ (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2564b) คิดเป็นร้อยละ 49.2 ของ
            เนื้อที่รวมทั้งภาค มีครัวเรือนเกษตรกรจำนวน 1,626,178 ครัวเรือน (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2564a)

            และมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคเกษตร ณ ราคาตลาด ในปี พ.ศ. 2562 เท่ากับ 319,610 ล้านบาท คดเป็น
                                                                                                  ิ
            ร้อยละ 21.69 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของภาค (สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาต,
                                                                                                      ิ
            2564) โดยกิจกรรมการผลิตภาคเกษตรที่สำคัญของภาคใต้ คือ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ประมงและ

            การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และไม้ผล

                ทั้งนี้ จากภาวะเศรษฐกิจการเกษตรของปี พ.ศ. 2563 พบว่า สาขาการผลิตทางการเกษตรที่สำคัญของ
            ภาคใต้ คือ สาขาพืช ซึ่งมีสัดสวนถึงร้อยละ 59.5 ของผลิตภัณฑ์ภาคภาคเกษตร หรือ GRP ภาคเกษตร
                                       ่
            รองลงมา ได้แก่ สาขาประมง สาขาปศุสัตว์ สาขาป่าไม้ และสาขาบริการทางการเกษตร คิดเป็นร้อยละ 33.2,
            4.1, 3.1 และ 0.20 ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาอัตราการขยายตัวของภาวะเศรษฐกิจการเกษตรภาคใต้ในชวง
                                                                                                     ่
            ปี พ.ศ. 2563 เทียบกับปีก่อนหน้า พบว่า สาขาพืชมีการหดตัวร้อยละ 0.3 เนื่องจากผลผลิตพืชที่สำคัญ ไดแก่
                                                                                                    ้
            ปาล์มน้ำมันและยางพารามีผลผลิตลดลง สาขาปศุสัตว์ขยายตัวร้อยละ 1.3 เนื่องจากเกษตรกรมีการจัดการ
            ฟาร์มที่ดี ประกอบกับความต้องการของตลาดส่งออกเพิ่มขึ้นทั้งสุกร ไก่เนื้อ และโคเนื้อ เช่นเดียวกับสาขา

            ประมงที่ขยายตัวร้อยละ 1.3 ในขณะที่ สาขาป่าไม้ขยายตัวร้อยละ 0.6 เนื่องจากเกษตรกรตัดโค่นไม้ยางพาราท ี่
                                                                                                   ี
            มีอายุมากเพิ่มขึ้นตามนโยบายส่งเสริมการลดพื้นที่ปลกยางพาราและสนับสนุนให้ปลูกแทนดวยยางพันธุ์ดหรือ
                                                        ู
                                                                                        ้
            พืชเศรษฐกิจอื่นทดแทน โดยเฉพาะทุเรียนและปาล์มน้ำมันซึ่งมีตลาดรองรับ ส่วนสาขาบริการทางการเกษตร
            หดตัวร้อยละ 0.2 เนื่องจากเกษตรกรชะลอการปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกใหม่ไม้ยืนต้นและไม้ผลเศรษฐกิจ จาก
            ข้อจำกัดการเคลื่อนย้ายแรงงานและเครื่องจักรกลการเกษตรในช่วงที่มีประกาศ พ.ร.บ. ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39