Page 85 -

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

บทที่ 3
สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวและการฟื้นตัวของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในช่วงวิกฤติการณ์โควิด-19

สถานที่ 1 : สถานภาพแนวปะการังบริเวณด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะลิบง

ผลการสำรวจสถานภาพปะการังบริเวณด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะลิบง พบว่า ลักษณะ

แนวปะการังโดยทั่วไปเป็นแนวปะการังน้ำตื้น และพบปะการังมีชีวิตร้อยละ 26.91±2.26 (ค่าเฉลี่ย+S.E.)
ต่อปะการังตายร้อยละ 49.16±0.65 ส่วนสถานภาพของปะการังอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม

จากการสำรวจพบปะการังที่สามารถจำแนกชนิดได้ จำนวน 17 ชนิด ได้แก่ ปะการังโขด (Porites
sp.) ซึ่งเป็นชนิดที่มีร้อยละการปกคลุมมากที่สุดและเป็นชนิดเด่นของพื้นที่ รองลงมาคือ ปะการังช่อง

เหลี่ยม (Favites sp.) ปะการังหินสมอง (Montastraea sp.) ปะการังสมองร่องสั้น (Platygyra sp.)
ปะการังวงแหวน (Favia sp.) ปะการังดาวใหญ่ (Diploastrea sp.) ปะการังเขากวาง (Acropora sp.)

ปะการังผิวเกล็ดน้ำแข็ง (Montipora sp.) ปะการังเคลือบหนาม (Oxypora sp.) ปะการังกาแล็กซี่
(Galaxea sp.) ปะการังหนามขนุน (Hydnophora sp.) ปะการังจาน (Turbinaria sp.) ปะการังใบร่อง

หนาม (Merulina sp.) ปะการังรังผึ้ง (Goniastrea sp.) ปะการังถ้วยสมอง (Lobophyllia sp.) ปะการัง
ช่องดาว (Astreopora sp.) และปะการังสมอง (Symphyllia sp.) ตามลำดับ

ส่วนสถานภาพของปะการังวัยอ่อนบริเวณด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะลิบง พบว่า จากการ

สำรวจสถานภาพของปะการังวัยอ่อน (ขนาดโคโลนีน้อยกว่าเซนติเมตร) ใน 5 บริเวณ พบปะการัง
ที่สามารถจำแนกชนิดได้ จำนวน 8 ชนิด โดยชนิดที่พบเรียงตามจำนวนโคโลนี ได้แก่ ปะการังวงแหวน

(Favia sp.) รองลงมาคือ ปะการังโขด (Porites sp.) ปะการังเห็ด (Fungia sp.) ปะการังช่องเหลี่ยม
(Favitea sp.) ปะการังกาแล็กซี่ (Galaxea sp.) ปะการังดอกไม้ทะเล (Goniopora sp.) ปะการังเขา

กวาง (Acropora sp.) และปะการังผิวเกล็ดน้ำแข็ง (Montipora sp.) ตามลำดับ (ดังตารางที่ 3.20)

ตารางที่ 3.20 จำนวนปะการังวัยอ่อนบริเวณด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะลิบง ปี พ.ศ. 2561

จำนวนโคโลนี (cm)
Species list รวม
<1 cm 1-3 cm >3-5 cm
Acropora sp. 1 1

Favia sp. 4 31 23 58
Favitea sp. 3 2 5

Fungia sp. 4 2 6
Galaxea sp. 2 1 3
Goniopora sp. 1 2 3

Montipora sp. 1 1
Porites sp. 6 3 9

รวม 4 47 35 86

ที่มา: กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (2563)

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย 61