Page 244 -
P. 244
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
แต่จะมีความจำเพาะในการกระตุ้นการเจริญเติบโต และการทำงานของจุลินทรีย์ในกลุ่มที่ย่อย
น้ำตาล (Saccharolytic microorgamisms) เช่น กลุ่ม Bifidobacterium sp. และ Lacto-
bacillus sp. ซึ่งมีความสามารถในการผลิตเอ็นไซม์โพลี่ไฮโดรเลส (polyhydrolase) และไกล
โคซิเดส (glycosidase) จึงสามารถหมักย่อยสายโซ่ของพรีไบโอติคได้ดี ในขณะที่จุลินทรีย์กลุ่ม
ที่ย่อยโปรตีน เช่น คลอสตริเดียม (Clostridium sp.) มีความสามารถในการย่อยพรีไบโอติคได้
ต่ำ ผลผลิตจากการหมักย่อยได้กรดไขมันสายโซ่สั้น เช่น กรดอะซิติค กรดบิวทิริค กรดโปรปิ
โอนิค และก๊าซต่าง ๆ เช่น ไฮโดรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และไฮโดร-เจนซัลไฟด์
นอกจากนั้นอาจได้สารตัวกลางในวิถีเมแทบอลิซึมเช่น เอทานอล (ethanol) กรดแลคติค กรด
ซัคซินิค (succinic acid) และกรดไพรูวิค เป็นต้น ผลผลิตเหล่านี้ช่วยในการเพิ่มจำนวนเซลล์
เยื่อบุลำไส้ใหญ่และสัตว์นำไปใช้เป็นแหล่งพลังงาน ในสุกรปริมาณการเกิดกรดไขมันสายโซ่สั้น
จากลำไส้ใหญ่มีประมาณ 210 mmol/L และสามารถให้พลังงานแก่สัตว์คิดเป็น 11% ของ
พลังงานที่ร่างกายต้องการ (Bergman, 1990)
นอกจากนี้สารพรีไบโอติคสายสั้นยังสามารถจับกับรีเซ็ฟเตอร์ (recepter) บนผิวของเชื้อ-
จุลินทรีย์ที่ก่อโรคเช่น อี โคไล หรือซัลโมเนลลา และพาจุลินทรีย์ดังกล่าวถ่ายออกมาพร้อมกับ
มูลของสัตว์ เป็นการช่วยป้องกันผนังลำไส้ของสัตว์มิให้ถูกทำลาย (Newman, 1994) สารที่
จัดเป็นพรีไบโอติคมีหลายชนิดขึ้นกับองค์ประกอบและโครงสร้างของโมเลกุล อาทิ
1. กลุ่มน้ำตาลแอลกอฮอล์ (alcohol sugar) ได้แก่ แลคติทอล (lactitol) ไซลิทอล
(xylitol) ซอร์บิทอล (sorbitol) และแมนนิทอล (mannitol) นิยมใช้ในคน
2. กลุ่มโอลิโกแซคคาไรด์ (oligo-saccharides) เป็นกลุ่มที่มีความยาวของโมเลกุล
(degree of polymerization: DP) น้อยกว่า 10 ได้แก่ fructo-oligosaccharide (FOS), -
glucan-oligosaccharide (GOS), manno-oligosaccharide (MOS), transgalacto-oligo-
saccharide (TOS) เป็นต้น เป็นกลุ่มที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงและนิยมใช้ในอาหารสัตว์
3. กลุ่มโพลี่แซคคาไรด์ (polysaccharide) กลุ่มนี้มีค่า DP อยู่ในช่วง 2-60 ได้แก่ สาร
อินนูลิน (inulin) และสาร resistant starch จากพืชบางชนิด
สารเสริมในอาหารสัตว์ 241