Page 139 -
P. 139
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ลายสือไทย*
กำาเนิดลายสือไทย
พ่อขุนรามคำาแหงมหาราช ทรงประดิษฐ์ลายสือไทยหรือตัวหนังสือไทยขึ้นเมื่อ
มหาศักราช ๑๒๐๕ (พุทธศักราช ๑๘๒๖) นับมาถึงพุทธศักราช ๒๕๒๖ ได้ ๗๐๐ ปีพอดี
ในระยะเวลาดังกล่าว ชาติไทยได้สะสมความรู้ทั้งทางศิลปวัฒนธรรม และวิชาการต่างๆ และ
ได้ถ่ายทอดความรู้เหล่านั้นสืบต่อกันมา โดยอาศัยลายสือไทยของพระองค์ท่านเป็นส่วนใหญ่
ก่อนสมัยสุโขทัย ชาติไทยเคยรุ่งเรืองอยู่ที่ไหน อย่างไร ไม่มีหลักฐานยืนยันให้ทราบแน่ชัด
แต่เมื่อพ่อขุนรามคำาแหงมหาราชทรงประดิษฐ์ลายสือไทยขึ้นแล้ว มีศิลาจารึกและพงศาวดาร
เหลืออยู่เป็นหลักฐานยืนยันว่า ชาติไทยเคยรุ่งเรืองมาอย่างไรบ้างในยุคสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี
และรัตนโกสินทร์ ในโอกาสครบรอบ ๗๐๐ ปีนี้ คนไทยทุกคนจึงควรน้อมรำาลึกถึง
พระมหากรุณาธิคุณ และพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่านโดยพร้อมเพรียงกัน
ศิลาจารึกหลักที่ ๑ ของพ่อขุนรามคำาแหงมหาราช มีข้อความปรากฏว่า “เมื่อก่อน
ลายสือไทยนี้บ่มี ๑๒๐๕ ศก ปีมะแม พ่อขุนรามคำาแหงหาใคร่ใจในใจแล่ใส่ลายสือไทยนี้ ลายสือไทยนี้
จึ่งมีเพื่อขุนผู้นั้นใส่ใว้” หา แปลว่า ด้วยตนเอง (ไทขาวยังใช้อยู่) ใคร่ใจในใจ แปลว่า คำานึงในใจ
(จากพจนานุกรมไทอาหม) ข้อความที่อ้างถึงแสดงว่าพ่อขุนรามคำาแหงมหาราชทรงประดิษฐ์
ตัวหนังสือไทยแบบที่จารึกไว้ในศิลาจารึกหลักที่ ๑ ขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๑๘๒๖
ศาสตราจารย์ยอร์ช เซเดส์ ได้กล่าวไว้ในตำานานอักษรไทย ซึ่งตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๘
ว่า คำาที่ใช้ในจารึกมีคำานี้อยู่ต่อคำา ลายสือ ทุกแห่ง (สามแห่ง) หมายความว่าหนังสือไทยอย่างนี้
ไม่มีอยู่ก่อน มิได้ประสงค์จะทรงแสดงว่า หนังสือของชนชาติไทยพึ่งมีขึ้นต่อเมื่อ พ.ศ. ๑๘๒๖
เซเดส์ยังเห็นว่า พวกไทยน้อยซึ่งมาอยู่ทางลำานำ้ายม ชั้นแรกเห็นจะใช้อักษรไทยซึ่งได้แบบ
มาจากมอญ** ต่อมาขอมมีอำานาจปกครองสุโขทัย พวกไทยคงจะศึกษาอักษรขอมหวัดที่ใช้
ในทางราชการ แล้วจึงแปลงอักษรเดิมของไทยมาเป็นรูปคล้ายตัวอักษรขอมหวัด ถ้าประสงค์
จะสมมติว่าอักษรไทเดิมเป็นอย่างไร ควรจะถือเอาอักษรอาหม (ใช้ในอัสสัม) กับอักษรไทน้อย
(ใช้ในอีสานและประเทศลาว) นี้เป็นหลัก นายฉำ่า ทองคำาวรรณ ได้เขียนเรื่อง “สันนิษฐาน
เทียบการเขียนอักษรไทยกับอักษรขอม ในสมัยพ่อขุนรามคำาแหง” ไว้ และได้สันนิษฐานว่า
อักษรพ่อขุนรามคำาแหงทุกตัวดัดแปลงมาจากอักษรขอมหวัด
*ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร. ๒๕๓๔. งานจารึกและประวัติศาสตร์. นครปฐม: โรงพิมพ์
ศูนย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการเกษตรแห่งชาติ.
**ตำานานอักษรไทย หน้า ๑ หน้า ๖ และหน้า ๑๑.
137