Page 194 -
P. 194
โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
190
กับปัจจัยด้านอาชีพรองและต�าแหน่งหน้าที่ของสมาชิก 1-2 ปี, 2-3 ปี, 3-4 ปี และมากกว่า 4 ปี โดยมีความพร้อม
องค์การบริหารส่วนต�าบลซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความ เฉลี่ย 2.71, 2.71, 2.70, 2.45 และ 2.07 คะแนนตามล�าดับ
พร้อมเช่นกัน โดยเมื่อทดสอบไม่พบความแตกต่างของ ซึ่งผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า สมาชิกองค์การบริหาร
ค่าเฉลี่ยของความพร้อม จ�าแนกตามอาชีพหลัก เป็นราย ส่วนต�าบลที่มีระยะเวลาการครองต�าแหน่งปัจจุบันต่าง
คู่ ที่ระดับนัยส�าคัญทางสถิติ 0.05 แต่อย่างใด กัน มีความพร้อมในการควบคุมไฟป่าแตกต่างกันอย่าง
5. การมีอาชีพรองของสมาชิกองค์การบริหาร มีนัยส�าคัญทางสถิติ (F = 10.433; P-value = <0.001)
ส่วนต�าบลต่างกัน ในการวิเคราะห์แบ่งเป็นมีอาชีพรอง โดยมีความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของความพร้อม จ�าแนก
และไม่มีอาชีพรอง โดยมีความพร้อมเฉลี่ย 2.59 และ ตามกลุ่มระยะเวลาครองต�าแหน่งปัจจุบัน เป็นรายคู่ จ�านวน
2.38 คะแนนตามล�าดับ ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า 4 คู่ ได้แก่ กลุ่มที่ครองต�าแหน่งมากกว่า 4 ปี มีความพร้อม
สมาชิกองค์การบริหารส่วนต�าบลที่มีอาชีพรองต่างกัน ในการควบคุมไฟป่าน้อยกว่ากลุ่มน้อยกว่า 1 ปี กลุ่ม 1-2 ปี
มีความพร้อมในการควบคุมไฟป่าแตกต่างกันอย่างมี กลุ่ม 2-3 ปี และกลุ่ม 3-4 ปี ซึ่งกลุ่มที่มีระยะเวลาครอง
นัยส�าคัญทางสถิติ (t = -2.505; P-value = 0.013) โดย ต�าแหน่งมากกว่า 4 ปี คือกลุ่มเป็นสมาชิกองค์การบริหาร
กลุ่มที่มีการประกอบอาชีพรอง คือ กลุ่มที่เป็นสมาชิก ส่วนต�าบลโดยต�าแหน่งนั่นเอง จะสังเกตได้ว่ากลุ่มที่มี
องค์การบริหารส่วนต�าบลที่มาจากการได้รับเลือกตั้ง และ คะแนนความพร้อมน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ คือ กลุ่มที่มีระยะ
มีการประกอบอาชีพหลักต่างๆ เช่น ค้าขาย เกษตรกรรม เวลาครองต�าแหน่งปัจจุบันมากกว่า 4 ปี เป็นกลุ่มสมาชิก
รับจ้าง ซึ่งสอดคล้องกับปัจจัยด้านอาชีพหลัก และปัจจัย โดยต�าแหน่ง ได้แก่ ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น
ด้านการเข้าเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนต�าบลของ ซึ่งไม่ได้มาจากการได้รับเลือกตั้งที่มีวาระการครองต�าแหน่ง
สมาชิกองค์การบริหารส่วนต�าบล นั่นเอง ได้ไม่เกิน 4 ปีในแต่ละวาระ ซึ่งสอดคล้องกับปัจจัยด้าน
6. การเข้าเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วน การเข้าเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนต�าบล
ต�าบลต่างกัน ในการวิเคราะห์แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ เป็น 8. การได้รับสวัสดิการในการปฏิบัติงานควบคุม
สมาชิกองค์การบริหารส่วนต�าบลโดยต�าแหน่งและมาจาก ไฟป่าของสมาชิกองค์การบริหารส่วนต�าบลต่างกัน คือ
การได้รับเลือกตั้ง โดยมีความพร้อมเฉลี่ย 2.40 และ 2.59 ได้รับและไม่ได้รับ โดยมีความพร้อมเฉลี่ย 3.10 และ
คะแนนตามล�าดับ ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า 2.45 คะแนนตามล�าดับ ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า
สมาชิกองค์การบริหารส่วนต�าบลที่มีการเข้าเป็นสมาชิก สมาชิกองค์การบริหารส่วนต�าบลที่มีการได้รับสวัสดิการ
องค์การบริหารส่วนต�าบลต่างกัน มีความพร้อมในการ ในการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าต่างกัน มีความพร้อมใน
ควบคุมไฟป่าแตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ การควบคุมไฟป่าแตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ
(t = 2.277; P-value = 0.024) โดยกลุ่มที่มาจากการได้รับ (t = 4.995; P-value = <0.001) การจัดสรรงบประมาณ
เลือกตั้งเพื่อเป็นตัวแทนชุมชนมีคะแนนความพร้อม หรือค่าตอบแทนแก่เจ้าหน้าที่ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างขวัญ
มากกว่ากลุ่มสมาชิกโดยต�าแหน่ง นั่นหมายถึงสมาชิก ก�าลังใจในการปฏิบัติงานและช่วยให้มีความพร้อมใน
ในชุมชนที่ท�าการศึกษาครั้งนี้ตระหนักถึงความส�าคัญ การปฏิบัติงานควบคุมไฟป่ามากยิ่งขึ้น
ในการควบคุมไฟป่า โดยมีตัวแทนจากการเลือกตั้งให้ 9. การได้รับการฝึกอบรมด้านการควบคุม
ร่วมวางแผนบริหารจัดการท้องถิ่นของตนให้มีความ ไฟป่าของสมาชิกองค์การบริหารส่วนต�าบลต่างกัน คือ
พร้อมในการควบคุมไฟป่า เคยได้รับการฝึกอบรมและไม่เคยได้รับการฝึกอบรม มี
7. ระยะเวลาการครองต�าแหน่งปัจจุบันของ ความพร้อมเฉลี่ย 3.08 และ 2.42 คะแนนตามล�าดับ ผลการ
สมาชิกองค์การบริหารส่วนต�าบลต่างกัน ในการวิเคราะห์ ทดสอบสมมติฐานพบว่าสมาชิกองค์การบริหารส่วน
ได้แบ่งตัวแปรอิสระออกเป็น 5 กลุ่ม ดังนี้ น้อยกว่า 1 ปี, ต�าบลที่ได้รับการฝึกอบรมด้านการควบคุมไฟป่าต่างกัน