Page 50 -
P. 50
โครงการรวบรวมและจัดทําเอกสารวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ปที่ 19 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม-ธันวาคม 2555) 39
จิตใจที่บริสุทธิ์ผองใสและปราศจากกิเลสซึ่งเปนปญหาและอุปสรรคในการใชชีวิต
ของมนุษย มุมมองดังกลาวสะทอนจากคุณลักษณะเดนทางความหมาย (salient
feature) บางประการที่เชื่อมโยงเขากับมโนอุปลักษณตางๆ ไดแก [กิเลส คือ สิ่งมีชีวิต]
สะทอนใหเห็นวา หากมนุษยตองการมีจิตใจที่ผองใสและปราศจากกิเลส มนุษยตอง
ไมตกอยูภายใตอํานาจหรือไมใหกิเลสเหลานั้นครอบงํา นอกจากนี้ในสวนของมโน
อุปลักษณ [กิเลส คือ ศัตรู] ยังสะทอนใหเห็นวา หากมนุษยสามารถขจัดกิเลสหรือ
ระงับกิเลสซึ่งเปนปญหาและอุปสรรคสําคัญในชีวิตได จิตใจของมนุษยก็จะผองใส
เมื่อจิตใจของมนุษยผองใส มนุษยก็จะดํารงชีวิตอยางเปนสุข อยางไรก็ตาม การใช
มโนอุปลักษณ [กิเลส คือ สิ่งสกปรก] ยังสะทอนใหเห็นวา กิเลสเปนสิ่งที่มนุษยไม
ตองการ มนุษยตองรูจักชําระลางกิเลสเหลานั้น ทั้งนี้หากมนุษยสามารถชําระลาง
หรือกําจัดกิเลสเหลานั้นไดหมด จิตใจของมนุษยก็จะผองใสขึ้น ในสวนของการใช
มโนอุปลักษณ [กิเลส คือ ความมืดมัว] ยังสะทอนใหเห็นวา จิตใจของมนุษยขุนมัว
เพราะมีกิเลสเขามาปกคลุม ดังนั้นมนุษยจึงจะตองรูจักจัดการหรือระงับกิเลสเพื่อให
จิตใจของตนสะอาดและผองใส นอกจากนี้ผูวิจัยยังพบวา มีการใชมโนอุปลักษณ
[กิเลส คือ โรค] ซึ่งสะทอนใหเห็นวา กิเลสเปนตัวการสําคัญที่ทําใหจิตใจของมนุษย
เสื่อมโทรมเปรียบเสมือนโรครายที่ตองเยียวยาหรือบําบัดรักษาใหจิตใจของมนุษยดี
ขึ้นและผองใสขึ้น
จากมุมมองที่กลาวมาทั้งหมดขางตนจะเห็นวา มโนอุปลักษณตางๆ
สะทอนมุมมองวา กิเลสเปนสิ่งที่มนุษยจะตองระงับหรือขจัดออกจากจิตใจดวยการ
ใชสติและปญญากําหนดจิตแลวดํารงชีวิตใหอยูในทางสายกลางเพื่อที่จะทําใหจิตใจ
ของตนนั้นบริสุทธิ์และปราศจากกิเลส ดังที่ พุทธทาสภิกขุ (2550: 147-158) กลาววา
“ธรรมชาติของจิตมนุษยนั้นไมมีกิเลส แตกิเลสจะเกิดขึ้นเมื่อมนุษยเกิดความยินดี
ยินราย การทําใหจิตถูกตองและปราศจากกิเลสนั้น มนุษยจะตองไมเปดโอกาสให
กิเลสครอบงํา กลาวคือ มนุษยตองมีสติสัมปชัญญะ ดํารงจิตใหตั้งอยูในลักษณะ
กลางๆ ไมยึดมั่นถือมั่น ใชปญญาและรูตัวทั่วพรอมอยูตลอดเวลา จิตใจของมนุษย
จึงจะบริสุทธิ์ผองใส”