Page 26 -
P. 26
โครงการรวบรวมและจัดทําเอกสารวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 (มกราคม-มิถุนายน 2555) 15
จากเหตุการณ์ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า แม้แต่พระอินทร์และเทวดาต่าง
ก็ต้องการบ าเพ็ญบุญเพื่อสะสมบุญของตนให้มากยิ่งขึ้นไป ดังที่พระอินทร์กล่าวกับ
พระมหากัสสปะ “ข้าแต่ท่านพระมหากัสสปะผู้เจริญ แม้ข้าพเจ้าก็ต้องการบุญ
แม้ข้าพเจ้าก็พึงท าบุญ” นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นความแตกต่างระหว่างการตัก
บาตรในสมัยพุทธกาลกับสมัยปัจจุบันกล่าวคือ ในสมัยพุทธกาลนั้นการตักบาตร
ฆราวาสจะรับบาตรจากภิกษุตักอาหารใส่แล้วน ามาถวายพระ ส่วนในปัจจุบันฆราวาส
เพียงแต่ตักอาหารใส่ในบาตรเท่านั้น
ประเพณีการบวช
สมัยพุทธกาล การอุปสมบทไม่สามารถท าได้ง่ายเหมือนในปัจจุบัน
เนื่องจากพระภิกษุยังมีจ านวนไม่มากเช่นในปัจจุบัน ในโสณสูตรกล่าวถึงโสณ
โกฏิกัณณะที่ขอร้องให้พระมหากัจจานะอนุญาตให้เขาบวชถึงสามครั้ง จนครั้งที่
สามพระมหากัจจานะจึงอนุญาตให้โสณโกฏิกัณณะบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อผ่าน
ไปอีกสามปีจึงได้อุปสมบทให้ เนื่องจากว่าการรวบรวมภิกษุให้ครบทศวรรคนั้นท า
ได้โดยล าบาก ดังที่บรรยายไว้ว่า
ล าดับนั้น อุบาสกโสณโกฏิกัณณะเข้าไปหาท่านพระมหา
กัจจานะอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง กล่าวว่า “ข้าแต่
ท่านผู้เจริญ เมื่อกี้กระผมนั่งอยู่ในที่หลีกเร้น (ได้เกิดความด าริ
อย่างนี้ว่า) ‘วิธีที่พระคุณเจ้ามหากัจจานะแสดงธรรมนั้น...ออกจาก
เรือนเที่ยวไป เป็นผู้ไม่มีเรือน’ ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ขอพระคุณเจ้า
มหากัจจานะให้กระผมบวชเถิด”
เมื่ออุบาสกโสณโกฏิกัณณะกล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านพระ
มหากัจจานะได้กล่าวกับอุบาสกโสณโกฏิกัณณะว่า “ดูกร โสณะ
การประพฤติพรหมจรรย์ท าได้ยาก มีภัตเดียว นอนผู้เดียวตลอด
ชีวิต ดูกรโสณะเชิญ เธอเป็นคฤหัสถ์ในเรือน และจงหมั่นปฏิบัติ
ตามค าสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายพยายามประพฤติ
พรหมจรรย์ มีภัตหนเดียว นอนผู้เดียว”