Page 28 -
P. 28

โครงการรวบรวมและจัดทําเอกสารวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


                                         ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 (มกราคม-มิถุนายน 2555)   17

                       ด้วยเหตุที่อวันตีทักขิณบทมีภิกษุน้อย การจะรวบรวมภิกษุสงฆ์ให้ครบ
                ทศวรรคกระท าได้ล าบากนัก จึงมีการลดหย่อนจ านวนภิกษุให้น้อยกว่า 10 รูป ถึง
                กระนั้นก็ต้องใช้เวลารวบรวมพระสงฆ์เพื่อประกอบพิธีกรรมอุปสมบทให้โสณ

                โกฏิกัณณะนานถึงสามปี ส่วนในปัจจุบันนั้นการอุปสมบทนั้นมิได้ยากล าบาก
                ดังเช่นสมัยพุทธกาล เมื่อใครต้องการอุปสมบทให้ไปติดต่อวัด เจ้าอาวาสจะจัดหา
                พระอุปัชฌาย์ให้ ผู้ที่จะบวชจะต้องท่องค าขอบวชสรณคมน์ และศีล 10 ให้ได้เตรียม
                เครื่องอัฐบริขารและเครื่องใช้ที่จ าเป็นไป

                ประเพณีการท าศพ

                       ประเพณีการท าศพในสมัยพุทธกาล เมื่อมีใครเสียชีวิต ก็จะน าร่างไปเผา
                แล้วท าสถูปไว้เหนืออัฐิของผู้ล่วงลับ ดังที่ปรากฏในคัมภีร์อุทาน ตอนพาหิยสูตร
                เมื่อพาหิยทารุจียะถูกแม่โคลูกอ่อนขวิดถึงแก่ชีวิตแล้ว พระพุทธเจ้าได้ตรัสแก่ภิกษุ
                ทั้งหลายเรื่องการท าศพพาหิยทารุจียะว่า


                              “ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอจงช่วยกันจับสรีระของพาหิยะ
                       ยกขึ้นวางบนแคร่ น าไปเผาเสีย
                              แล้วจงท าสถูปไว้ สหายในชีวิตพรหมจรรย์ของเธอได้
                       ท ากาลกริยาแล้ว” (พาหิยสูตร: 29)

                       จะเห็นได้ว่า การท าศพในสมัยพุทธกาลนั้นไม่มีความยุ่งยากซับซ้อนนัก
                เมื่อเผาเสร็จแล้ว ก็จะท าสถูปไว้ การท าสถูปมีปรากฏมาถึงในปัจจุบัน เมื่อเผาศพ
                เรียบร้อยแล้ว ลูกหลานของผู้ล่วงลับอาจเก็บอัฐิไว้ที่บ้าน หรือน าอัฐิมาบรรจุไว้ใน

                สถูปที่สร้างขึ้นเป็นที่ระลึกและให้ลูกหลานได้เคารพกราบไหว้

                        นอกจากนี้ ในคัมภีร์อุทานยังกล่าวถึง ประเพณีการช าระร่างกายหลังไป
                ร่วมงานศพไว้ด้วย ตัวอย่างเช่น เอกปุตตสูตร อุบาสกทั้งหลายได้กล่าวถึงเหตุที่มี
                ผมและเสื้อผ้าเปียกมาเฝ้าพระพุทธเจ้าในเวลาเที่ยงว่า “ข้าแต่พระผู้มีพระภาค บุตร
                คนเดียวเป็นที่รัก เป็นที่พอใจของข้าพระองค์ได้ท ากาละลง เพราะเหตุนั้น ข้าพระองค์

                ทั้งหลายจึงมีผ้าชุ่ม มีผมเปียกเข้ามาในเวลาเที่ยง”  (เอกปุตตสูตร:  41) การช าระ
   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33