Page 27 -
P. 27

โครงการรวบรวมและจัดทําเอกสารวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


          16   วารสารมนุษยศาสตร์

                        ครั้งนั้น การปรารภเพื่อจะบวชของอุบาสกโสณ
                 โกฏิกัณณะได้ระงับไป

                        แม้ครั้งที่สอง อุบาสกโสณโกฏิกัณณะอยู่ในที่หลีกเร้น
                 ได้เกิดความด าริเดิม อุบาสกโสณโกฏิกัณณะก็ได้เข้าไปหาท่าน
                 พระมหากัจจานะ และขอออกจากเรือน แต่ก็ได้รับค าตอบ

                 เหมือนเดิม ถึงครั้งที่สามท่านพระมหากัจจานะจึงให้อุบาสก
                 โสณโกฏิกัณณะบรรพชา

                        สมัยนั้น อวันตีทักขิณบถมีภิกษุน้อย ล่วงไปสามปี
                 ด้วยความยากล าบาก ท่านพระมหากัจจานะจึงสามารถรวบรวม
                 ภิกษุสงฆ์ทศวรรค จากที่นั่นบ้างที่นี่บ้างจนครบองค์ และท่าน
                 พระโสณะได้อุปสมบท (โสณสูตร: 118-119)


                 ในสมัยพุทธกาล ตามพระวินัยจะประกอบพิธีอุปสมบทได้ คณะภิกษุสงฆ์
          ต้องประกอบด้วยภิกษุอย่างน้อย 10  รูป หรือ ทสวคฺค  ภิกฺขุสงฺฆ  ดังที่ไอร์แลนด์
          อธิบายว่า

                 ทสวคฺค  ภิกฺขุสงฺฆ  ตามพระวินัยแล้ว คณะภิกษุสงฆ์ต้องประกอบ
                 ด้วยภิกษุอย่างน้อย 10 รูป จึงจะประกอบพิธีอุปสมบทได้ กล่าวคือ

                 ประกอบพิธีที่ยกฐานะสามเณรขึ้นเป็นพระภิกษุ แต่ด้วยการขอ
                 อนุญาตของพระมหากัจจานะ จ านวนภิกษุสงฆ์นี้ลดลงได้เหลือ
                 5  รูป...ดังมีเรื่องของพระโสณโกฏิกัณณะรวมอยู่ ซึ่งแสดงว่ามี
                 การลดหย่อนผ่อนปรนแล้ว อย่างไรก็ตาม ในการบรรพชาสามเณร
                 นั้นเพียงพระภิกษุอาวุโสรูปเดียวก็สามารถประกอบพิธีได้
                 ดังนั้น ท่านพระโสณะจึงสามารถบรรพชาเป็นสามเณรได้ทันที

                 หลังจากที่พระอาจารย์อนุญาตให้บวช ท่านได้บวชเป็นสามเณร
                 อยู่สามปีจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ (ไอร์แลนด์, 2546: 213)
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32