Page 78 -
P. 78
โครงการรวบรวมและจัดทําเอกสารวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
67
5. ค านวณจ านวนตัวของเหยื่อที่ถูกกินสัมพัทธ์ (Relative number of prey consumed: E) จากสูตรของ
Andheria et al. (2007)
E = (R/X)/ Ʃ (R/X)
เมื่อ E = จ านวนตัวของเหยื่อที่ถูกกินสัมพัทธ์
R = มวลชีวภาพเหยื่อที่ถูกกินสัมพัทธ์
X = น้ าหนักสดของเหยื่อเฉลี่ย
6. ค านวณดัชนีการเลือกกิน (Electivity index: D) ที่แสดงถึงความชอบในการเลือกกินเหยื่อของหมาใน ตาม
Jacops (1974) ซึ่งมีสูตรค านวณดังนี้
เมื่อ r = สัดส่วนของชนิดเหยื่อที่ถูกกิน
p = สัดส่วนของชนิดเหยื่อที่ส ารวจพบในธรรมชาติ
ผลและวิจารณ์
ความมากมายของหมาใน และเหยื่อ
ผลการศึกษาจากการตั้งกล้องดักถ่ายภาพพบว่าหมาในมีค่าร้อยละความมากมายสัมพัทธ์ (% Relative
abundance) จากการวิเคราะห์ข้อมูลรวม 0.6 ขณะที่ความมากมายของเหยื่อในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งที่
พบจากกล้องดักถ่ายภาพ รวม 34 ชนิด พบว่าเก้งมีค่ามากที่สุด 34.27%รองลงมาคือ กวางป่า 29.87% หมูป่า
14.20% สัตว์กลุ่มนก 10.87% อีเห็นธรรมดา 8.13% เม่นใหญ่ 6.47% วัวแดง 4.33% สัตว์กลุ่มหนูหรือสัตว์ฟันแทะ
ขนาดเล็ก 4.27% ชะมดแผงหางปล้อง 3.27% เป็นต้น ความมากมายของเหยื่อหลักเมื่อพิจารณาตามฤดูกาลพบว่ามี
ความผันแปรไปตามชนิดสัตว์ป่า เช่น เก้ง และหมูป่ามีค่าความมากมายช่วงฤดูฝนมากกว่าฤดูแล้ง กวางป่ามีค่าความ
มากมายน้อยลงในช่วงฤดูฝน เป็นต้น โดยความผันแปรดังกล่าวเกิดจากการเดินทางเข้าออกบริเวณพื้นที่ศึกษาที่ติดตั้ง
กล้องของสัตว์ป่ามากกว่าการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของประชากร ผลการศึกษาแสดงในตารางที่ 1
เมื่อพิจารณาผลการศึกษาโดยรวมพบว่าสัตว์กีบคู่ ที่พบ 7 ชนิด ได้แก่ กวางป่า เก้ง หมูป่า กระทิง วัวแดง ควาย
ป่า กระจงหนู มีความมากมายมากที่สุด รวม 83.66%
ชนิดและการเลือกกินเหยื่อของหมาใน
จากกองมูลหมาในที่พบทั้งหมด 134 กองแบ่งเป็นการพบช่วงฤดูแล้ง 115 กอง และพบช่วงฤดูฝน 19 กอง การ
พบมูลช่วงฤดูฝนน้อยอาจเป็นเพราะการเดินเท้าตามเส้นทางต่างๆในพื้นที่ด าเนินการได้สะดวกในช่วงฤดูแล้ง
นอกจากนี้หมาในอาจเดินทางออกไปจากพื้นที่ศึกษาไปยังอีกพื้นที่หนึ่ง ผลการศึกษาพบว่ากองมูลของหมาในหนึ่งกอง
พบเหยื่อเพียงชนิดเดียว 80.60% พบเหยื่อสองชนิด 16.42% และพบเหยื่อสามชนิด 2.99% โดยกองที่พบเหยื่อสอง
และสามชนิด ชนิดเหยื่อที่พบเพิ่มนอกเหนือจากสัตว์กีบคู่ ในมูลนั้น เช่น ชะมดแผงหางปล้อง อีเห็นธรรมดา สัตว์พวก
หนู สัตว์ปีก เม่น ลิงกัง เป็นต้น อาจเกิดจากการเดินทางไปพบและจับกินขณะเดินหาอาหารของหมาใน (Rabinowitz,
1989)
วารสารสัตว์ป่าเมืองไทย ปีที่ 24 พ.ศ. 2560 Journal of Wildlife in Thailand Vol. 24, 2017