Page 83 -
P. 83

โครงการรวบรวมและจัดทําเอกสารวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


                                                           72

               กวางป่า ขณะที่พบว่าหมาในเลือกกินหมูป่ามากขึ้นในช่วงฤดูแล้ง ขณะที่ผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยรวมและในช่วงฤดู
               ฝนพบว่าหมาในเลือกกินหมูป่าลดน้อยลงตามปริมาณที่มีในธรรมชาติ ดังภาพที่ 2
































               ภาพที่ 2  แสดงค่าดัชนีการเลือกกินเหยื่อ (Electivity index) ของหมาในในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งจากการ
               วิเคราะห์ข้อมูลโดยรวม และจ าแนกตามฤดูกาล


               การซ้อนทับกันของเหยื่อระหว่างผู้ล่า
                     ผลการค านวณการซ้อนทับกันของเหยื่อระหว่างหมาในกับเสือดาวที่ศึกษาจากกองมูล 30 กอง ในระหว่างการ
               เก็บมูลหมาในในพื้นที่เดียวกันและจ าแนกเหยื่อโดยวิธีการเดียวกันโดยใช้ Pianka’s index พบว่ามีการซ้อนทับกัน
               0.89 หรือ 89% หมายความว่าหมาในและเสือดาวเลือกกินเหยื่อคล้ายกัน 89% เมื่อเปรียบเทียบกับการศึกษาของ
               Selvan et al. (2013) ในเขตสงวนเสือโคร่ง Pakke บริเวณภาคตะวันออกของเทือกเขาหิมาลัย ประเทศอินเดีย พบว่า
               หมาในและเสือดาวมีดัชนีการซ้อนทับกันของเหยื่อ 53.1% ขณะที่การซ้อนทับกันของเหยื่อระหว่างเสือโคร่งกับหมาใน
               มีค่า 77.5% และระหว่างเสือโคร่งกับเสือดาวมีค่า 85.3% การซ้อนทับกันของเหยื่อระหว่างหมาในและเสือดาว
               ค่อนข้างมากในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งเมื่อเปรียบเทียบกับผลการศึกษาในเขตสงวนเสือโคร่ง Pakke แสดงถึง
               การแก่งแย่งแข่งขันระหว่างสัตว์กินเนื้อทั้งสองชนิดในพื้นที่มากกว่า ขณะที่การศึกษาของ Andheria et al. (2007)

               พบว่า หมาในและเสือดาวในเขตสงวนเสือโคร่ง Bandipur ประเทศอินเดียมีการซ้อนทับกันของเหยื่อถึง 93% ขณะที่
               พบว่าการซ้อนทับกันของเหยื่อระหว่างหมาในกับเสือโคร่งเท่ากับ 75%

                                                           สรุป


                     1. ค่าร้อยละความมากมายของหมาในและเหยื่อจากกล้องดักถ่ายภาพ พบหมาในมีค่าร้อยละความมากมาย
               เท่ากับ 0.6% ความมากมายของเหยื่อของหมาในในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งพบว่า เก้งมีค่าร้อยละความ
               มากมายมากที่สุดเท่ากับ 34.27% รองลงมาได้แก่ กวางป่า (29.87%) หมูป่า (14.20%) และสัตว์กลุ่มนก (10.87%)
                     2. ชนิดเหยื่อที่ปรากฏในกองมูล พบชนิดเหยื่อทั้งหมด 10 ชนิดประกอบด้วย เก้ง กวางป่า เนื้อทราย หมูป่า
               ชะมดแผงหางปล้อง อีเห็นธรรมดา เม่น ลิงกัง สัตว์กลุ่มนก สัตว์กลุ่มหนู ผลการศึกษาพบเก้งมีค่าร้อยละความถี่ในการ
               ปรากฏมากที่สุด 31.34% รองลงได้แก่ ชะมดแผงหางปล้อง 30.60% กวางป่า 20.90% หมูป่า 14.18%



               วารสารสัตว์ป่าเมืองไทย ปีที่ 24 พ.ศ. 2560                  Journal of Wildlife in Thailand Vol. 24, 2017
   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87   88