Page 110 -
P. 110
โครงการรวบรวมและจัดทําเอกสารวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
99
Environmental Policy and Planning (2007) จัดให้ลิงวอกภูเขาอยู่ในสถานภาพเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
(Endangered; EN) เนื่องจากยังขาดข้อมูลที่ส้าคัญของลิงชนิดนี เช่น แหล่งที่อยู่อาศัย การกระจายตัว และจ้านวน
ประชากร เป็นต้น
ปัจจุบันมีการศึกษาและการท้าวิจัยเกี่ยวกับลิงวอกภูเขาในประเทศไทยมากขึ น ตัวอย่างเช่น แหล่งที่อยู่อาศัย
และการกระจายตัวของประชากร (Aggimarangsee, 1992; Malaivijitnond et al., 2005) ขนาดของประชากรและ
สัดส่วนของเพศและวัย (Aggimarangsee, 1992; Kaewpanus, 2010) วงจรชีวิต ระบบสืบพันธุ์ และการท้างานของ
ฮอร์โมน (Furtbauer et al., 2010; Ostner et al., 2011) พฤติกรรมและนิเวศวิทยา (Kaewpanus &
Aggimarangsee, 2010; Schuelke et al., 2011; Kaewpanus, 2014; Kaewpanus et al., 2015) การสื่อสารด้วย
เสียง (Kaewpanus, 2014) ถึงแม้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับลิงชนิดนี เพิ่มมากขึ น แต่ยังมีความจ้าเป็นที่ต้องศึกษาและท้าวิจัย
ในหัวข้อต่างๆที่เกี่ยวข้องกับลิงชนิดนี เพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลอย่างรอบด้าน ตัวอย่างเช่น แหล่งที่อยู่อาศัย ขนาดและ
จ้านวนประชากรของแต่ละบริเวณ นิเวศวิทยา พฤติกรรมต่างๆ เช่น พฤติกรรมการกินอาหาร การสื่อสารระหว่าง
สมาชิกในฝูง การปรับตัวของพฤติกรรมต่างๆที่ส่งผลการด้ารงชีวิตและสืบเผ่าพันธุ์เป็นต้น “ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาใน
ครั งนี สามารถน้าไปใช้ประโยชน์ในการจัดการปัญหาต่างๆระหว่างคนกับลิงโดยเฉพาะในสถานที่ท่องเที่ยว ท้าให้เข้าใจ
การแสดงออกทางสีหน้าและพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องของลิงวอกภูเขามากขึ น เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างนักท่องเที่ยวที่
เข้าไปเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีลิงอาศัยอยู่ และเป็นแนวทางในการปฏิบัติในการท่องเที่ยวในสถานที่ที่มีลิงอาศัยอยู่
การศึกษาวิจัยในครั งนี มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี 1) แสดงรูปแบบของการแสดงออกทางสีหน้าของลิงวอกภูเขา
2) ศึกษาการแสดงออกทางสีหน้าและพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องของลิงวอกภูเขา 3) ศึกษารูปแบบต่างๆของการสื่อสารด้วย
การแสดงออกทางสีหน้าในแต่ละเพศและวัยของลิงวอกภูเขา
อุปกรณ์และวิธีการ
สถานที่ท้าวิจัย
วัดถ ้าปลา ต้าบลโป่งงาม อ้าเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีที่ตั งทางภูมิศาสตร์ คือ ละติจูด 20 องศา 19ลิปดา
เหนือ ลองติจูดที่ 99 องศา 58 ลิปดาตะวันออก ความสูงจากระดับน ้าทะเลปานกลาง 408 เมตร วัดถ ้าปลามีระยะทาง
ห่างจากด่านท่าขี เหล็ก ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างประเทศไทยและประเทศพม่า ประมาณ 19 กิโลเมตร บริเวณโดยรอบ
ของวัดถ ้าปลาเป็นป่าภูเขาหินปูน ป่าเบญจพรรณ และป่าไผ่ (Maxwell, 2007) ลิงวอกภูเขาอาศัยอยู่บริเวณโดยรอบ
ของป่าภูเขาหินปูน โดยลิงจะลงมาพักผ่อนและหาอาหารบริเวณวัดในตอนกลางวันและกลับขึ นไปบริเวณที่นอนในตอน
พลบค่้า ลิงวอกภูเขากินอาหารจากมนุษย์และหากินอาหารตามธรรมชาติ อาหารจากที่ได้รับจากมนุษย์ เช่น ถั่วลิสง
และกล้วยน ้าว้า ส่วนอาหารที่ลิงหากินตามธรรมชาติ เช่น ตะขบฝรั่ง และผลไทร เป็นต้น (Kaewpanus, 2014, 2015)
ชนิดพันธุ์ที่ศึกษา
ลิงวอกภูเขามีลักษณะภายนอกอ้วนสั นในเพศเมีย ส่วนเพศผู้มีรูปร่างเรียวและตัวใหญ่กว่าในเพศเมีย น ้าหนัก
ของเพศผู้เต็มวัยประมาณ 7.9-15.0 กิโลกรัม ตัวเต็มวัยเพศเมียประมาณ 4.86-8.6 กิโลกรัม (Fooden 1982a; Fa,
1989) ความยาวล้าตัวของลิงวอกภูเขาซึ่งวัดจากหัวจนถึงโคนหาง (Body length) ในเพศผู้ 538-730 มิลลิเมตร เพศ
เมีย 431-587 มิลลิเมตร (Fa, 1989) ความยาวของหาง (Tail length) ประมาณครึ่งหนึ่งของความยาวจากหัวถึงโคน
หาง ใบหน้าของลิงวอกภูเขาทีสีเหลือง สีแดงหรือสีน ้าตาล ตาสีเหลืองจนถึงสีน ้าตาลเข้ม จมูกมีสีด้า หูค่อนข้างเล็ก
ปลายของหูชี ขึ นไปทางด้านหลังและมีขนปกคลุมเล็กน้อย ขนตรงกระหม่อมของตัวผู้มักแยกเป็น 2 แฉก และวนเป็นรูป
วงแหวน บริเวณรอบปากมีเครายาวขึ นไปยังบริเวณแก้มซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนในตัวผู้ บริเวณก้นมีแผ่นหนังสีน ้าตาล
หนา (Callosity) ในตัวเมียบริเวณก้นมีสีแดง โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ระยะตกไข่ (Estrus) ก้นจะมีสีแดงเข้มและลิงตัวเต็ม
วัยเพศเมียบางตัวจะมีอาการบวมบริเวณเหนือก้นทั งสองด้วย (Fooden 1982a; Kaewpanus, 2014)
วารสารสัตว์ป่าเมืองไทย ปีที่ 24 พ.ศ. 2560 Journal of Wildlife in Thailand Vol. 24, 2017