Page 10 -
P. 10
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ผลการศึกษาจ าแนกเป็น 3 สํวนที่ส าคัญตามวัตถุประสงค์ของการศึกษา ดังนี้
1) สภาพยุ๎งฉาง รูปแบบ กระบวนการเก็บรักษาข๎าวเปลือกและต๎นทุนสํวนเพิ่มของการจัดเก็บข๎าวเปลือก
ผลการศึกษาพบวํา กระบวนการหลังการเก็บเกี่ยวโดยเฉพาะการตากข๎าวเพื่อลดความชื้นกํอนจัดเก็บ
ใช๎แรงงานครัวเรือนเป็นหลัก โดยจ านวนเกษตรกรที่มียุ๎งฉางมีประมาณ 81.57% เกษตรกรสํวนใหญํ 62.73%
จัดเก็บข๎าวหอมมะลิในยุ๎งฉางภายในบริเวณรั้วบ๎าน รองลงมาจัดเก็บในบ๎านและพื้นที่ตํอเติมรอบบ๎าน ความจุของ
สถานที่จัดเก็บข๎าวหอมะลิเฉลี่ยประมาณ 13 ตัน เกษตรกรที่เก็บข๎าวหอมมะลิไว๎ขายจะมีขนาดยุ๎งฉางใหญํกวํา
เกษตรกรที่เก็บไว๎เพื่อบริโภคและเกษตรกรในพื้นที่ชลประทานจะมียุ๎งฉางขนาดเล็กกวําพื้นที่อื่นๆ ยุ๎งฉางที่ใช๎เก็บข๎าว
หอมมะลิมีอายุเฉลี่ยประมาณ 17.26 ปี โดยที่เกษตรกรประมาณหนึ่งในสามเคยซํอมแซมยุ๎งฉางและเกษตรกรที่เก็บ
ข๎าวไว๎ขายจะมีสัดสํวนเกษตรกรที่เคยซํอมแซมยุ๎งฉางสูงกวําเกษตรกรกลุํมอื่น ยุ๎งฉางที่ใช๎จัดเก็บข๎าวหอมมะลิมีความ
สูงจากพื้นประมาณ 1.45 เมตร แตกตํางกันตามสภาพแวดล๎อมในการผลิตคือเกษตรกรในพื้นที่ชลประทานมียุ๎งฉางที่
มีความสูงเฉลี่ยน๎อยที่สุด ในสํวนของวัสดุที่ใช๎ในการสร๎างยุ๎งฉางหรือสถานที่เก็บข๎าวหอมมะลิของเกษตรกรสํวนใหญํ
91.83% นิยมใช๎พื้นเป็นไม๎ ผนังเป็นไม๎หรือสังกะสี สํวนเกษตรกรที่เก็บข๎าวในบ๎านหรือพื้นที่ตํอเติมรอบบ๎านพื้นของ
ยุ๎งฉางจะเป็นซีเมนต์หรือกระเบื้องและปูรองพื้นกํอนจัดเก็บข๎าว ยุ๎งฉางสํวนใหญํยกพื้นสูง ซึ่งเกษตรกรจะใช๎พื้นที่ใต๎
ยุ๎งฉางเป็นคอกสัตว์หรือเก็บอุปกรณ์การเกษตร
กํอนน าข๎าวเข๎าเก็บในยุ๎งฉางหรือสถานที่จัดเก็บข๎าวเกษตรกรจะท าความสะอาดและส ารวจความ
เสียหายของยุ๎งฉางกํอน อยํางไรก็ตามแม๎วําเกษตรกรบางรายจะมียุ๎งฉางแตํนิยมเก็บในบ๎านเพราะสะดวกในการยก
ข๎าวเปลือกไปสีเพื่อบริโภค ซึ่งความถี่ของการใช๎ยุ๎งฉางเฉลี่ยประมาณหนึ่งหรือสองครั้งตํอเดือน ในสํวนขององค์
ความรู๎ในการจัดเก็บข๎าวเกษตรกรสํวนใหญํใช๎ประสบการณ์ตนเองและบรรพบุรุษ แม๎วําเกษตรกรประมาณหนึ่งในสาม
เคยอบรมความรู๎เกี่ยวกับการจัดเก็บข๎าวโดยเฉพาะการตากข๎าวหรือระดับความชื้นข๎าวเปลือกที่เหมาะสม แตํไมํเคย
อบรมรูปแบบการจัดเก็บข๎าวที่เหมาะสมส าหรับรักษาคุณภาพข๎าวเปลือก
ผลการวิเคราะห์ต๎นทุนการปลูกข๎าวหอมมะลิที่เป็นเงินสดของเกษตรกรพบวําเกษตรกรมีต๎นทุนเฉลี่ย
5,066 บาทตํอตัน ราคาข๎าวหอมมะลิที่เกษตรกรได๎รับในชํวงเก็บเกี่ยวเฉลี่ยประมาณ 9,524-10,271 บาทตํอตัน
เมื่อพิจารณาต๎นทุนสํวนเพิ่มจากการจัดเก็บข๎าวหอมมะลิโดยใช๎ราคาข๎าวหอมมะลิในปีการผลิต 2560/61 พบวํา
เกษตรกรมีต๎นทุนสํวนเพิ่มจากการสูญเสียน้ าหนักและเปอร์เซ็นต์ต๎นข๎าว 190 และ 254 บาทตํอตัน ส าหรับการขาย
ข๎าวหอมมะลิหลังจัดเก็บ 3 เดือน และ 6 เดือน ตามล าดับ เมื่อรวมกับต๎นทุนคําตากข๎าวแล๎วเกษตรกรจะมีต๎นทุน
สํวนเพิ่มเฉลี่ย 526 และ 590 บาทตํอตัน ส าหรับจัดเก็บข๎าวหอมมะลิ 3 เดือน และ 6 เดือน ตามล าดับ ดังนั้น
เกษตรกรจะมีก าไรเหนือต๎นทุนเงินสดเพิ่มขึ้นจาก 4,954 บาทตํอตัน เป็น 9,518-10,244 บาทตํอตัน
2) การตัดสินใจจัดเก็บข๎าวและการเข๎ารํวมโครงการจ าน ายุ๎งฉางของเกษตรกร
วัตถุประสงค์ของการเก็บข๎าวของเกษตรกรมี 3 วัตถุประสงค์หลักคือ เก็บไว๎เพื่อบริโภคในครัวเรือน
และใช๎เป็นเมล็ดพันธุ์ (52.57%) เก็บไว๎ขาย (23.26%) เก็บไว๎เพื่อเข๎ารํวมโครงการจ าน ายุ๎งฉาง (24.17%) ซึ่ง
เกษตรกรที่เก็บข๎าวไว๎ขายหรือเข๎ารํวมโครงการจ าน ายุ๎งฉางสํวนใหญํจะเป็นเกษตรกรรายใหญํที่มีพื้นที่เพาะปลูกข๎าว
หอมมะลิมากกวํา 30 ไรํขึ้นไป นอกจากนี้ยังพบวํา เกษตรกรในพื้นที่ชลประทานสํวนใหญํขายข๎าวทันทีหลังเก็บ
เกี่ยวเนื่องจากจ าเป็นต๎องน าเงินมาลงทุนในการปลูกข๎าวในฤดูนาปรังและบางสํวนต๎องเตรียมพื้นที่ส าหรับปลูกข๎าว
นาปรังจึงขาดแคลนแรงงานในการตากข๎าว ในขณะที่พื้นที่นาน้ าฝนมีสัดสํวนของเกษตรกรที่เก็บข๎าวไว๎รอราคา
มากกวําในพื้นที่ชลประทาน และภูมิภาคอีสานใต๎มีเกษตรกรที่เก็บข๎าวหอมมะลิไว๎รอราคาและเข๎ารํวมโครงการจ าน า
ยุ๎งฉางมากที่สุด
ผลการศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบตํอการตัดสินใจจัดเก็บข๎าวหอมมะลิของเกษตรกร พบวําตัวแปรอิสระ
ในแบบจ าลองสามารถอธิบายการตัดสินใจจัดเก็บข๎าวของเกษตรกรได๎ 44.91% โดยครัวเรือนที่มีแรงงานหลักในการ
ปลูกข๎าวเป็นเพศหญิง รายได๎ของครัวเรือน ภูมิภาค (อีสานเหนือ อีสานกลาง และอีสานใต๎) รูปแบบการผลิตข๎าว
ปริมาณผลผลิตข๎าวหอมมะลิ การมียุ๎งฉาง และเกษตรกรที่เคยเข๎ารํวมโครงการจ าน ายุ๎งฉาง มีอิทธิพลตํอการ
ตัดสินใจจัดเก็บข๎าวหอมมะลิอยํางมีนัยส าคัญทางสถิติ โดยครัวเรือนที่มีสัดสํวนแรงงานเพศหญิงมากจะตัดสินใจ
จัดเก็บข๎าวไว๎รอราคามากกวํา เนื่องจากกระบวนการจัดการหลังเก็บเกี่ยวเป็นขั้นตอนที่ต๎องใช๎ความละเอียดและมี
การปฏิบัติอยํางตํอเนื่อง ในขณะที่รายได๎ของครัวเรือนมีเครื่องหมายหน๎าสัมประสิทธิ์เป็นลบหมายถึงครัวเรือนที่มี
รายได๎มากกวํามีความนําจะเป็นที่จะขายทันทีหลังเก็บเกี่ยวมากกวํา ซึ่งสัดสํวนรายได๎จากนอกภาคการเกษตรคิดเป็น
ซ