Page 119 -
P. 119

92
                           92
                                       92 92
                    92
  พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
                          พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์




 อิทธิพลของประชากรขนาดเล็ก (genetic drift) จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนที่เกิดจาก
                 อิทธิพลของประชากรขนาดเล็ก (genetic drift) จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนที่เกิดจากอิทธิพลของประชากรขนาดเล็ก (genetic drift) จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนที่เกิดจากอิทธิพลของประชากรขนาดเล็ก (genetic drift) จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนที่เกิดจากอิทธิพลของประชากรขนาดเล็ก (genetic drift) จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนที่เกิดจาก
                     โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 กลายยีน การอพยพ และการคัดเลือกจะเป็นการคัดเลือกที่เป็นแบบมีทิศทางซึ่งประชากรจะมีขนาดใหญ่
                 กลายยีน การอพยพ และการคัดเลือกจะเป็นการคัดเลือกที่เป็นแบบมีทิศทางซึ่งประชากรจะมีขนาดใหญ่ กลายยีน การอพยพ และการคัดเลือกจะเป็นการคัดเลือกที่เป็นแบบมีทิศทางซึ่งประชากรจะมีขนาดใหญ่ กลายยีน การอพยพ และการคัดเลือกจะเป็นการคัดเลือกที่เป็นแบบมีทิศทางซึ่งประชากรจะมีขนาดใหญ่ กลายยีน การอพยพ และการคัดเลือกจะเป็นการคัดเลือกที่เป็นแบบมีทิศทางซึ่งประชากรจะมีขนาดใหญ่
 ในขณะที่ประชากรที่มีขนาดเล็กจะไม่มีทิศทางในการเกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนซึ่งโอกาสที่ยีนจะ
                 ในขณะที่ประชากรที่มีขนาดเล็กจะไม่มีทิศทางในการเกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนซึ่งโอกาสที่ยีนจะในขณะที่ประชากรที่มีขนาดเล็กจะไม่มีทิศทางในการเกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนซึ่งโอกาสที่ยีนจะในขณะที่ประชากรที่มีขนาดเล็กจะไม่มีทิศทางในการเกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนซึ่งโอกาสที่ยีนจะในขณะที่ประชากรที่มีขนาดเล็กจะไม่มีทิศทางในการเกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนซึ่งโอกาสที่ยีนจะ
           112
                   พันธุศาสตร์ประชากร
 ปรากฏได้นั้นอาศัยความน่าจะเป็นในการคงอยู่ของยีน ซึ่งประชากรที่มีขนาดเล็กนี้ จะมีจ านวนของประชากร
                     สำาหรับการปรับปรุงพันธุ์
                 ปรากฏได้นั้นอาศัยความน่าจะเป็นในการคงอยู่ของยีน ซึ่งประชากรที่มีขนาดเล็กนี้ จะมีจ านวนของประชากรปรากฏได้นั้นอาศัยความน่าจะเป็นในการคงอยู่ของยีน ซึ่งประชากรที่มีขนาดเล็กนี้ จะมีจ านวนของประชากรปรากฏได้นั้นอาศัยความน่าจะเป็นในการคงอยู่ของยีน ซึ่งประชากรที่มีขนาดเล็กนี้ จะมีจ านวนของประชากรปรากฏได้นั้นอาศัยความน่าจะเป็นในการคงอยู่ของยีน ซึ่งประชากรที่มีขนาดเล็กนี้ จะมีจ านวนของประชากร
 ให้เท่ากับ N เพราะฉะนั้นจ านวนของยีนที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเท่ากับ 2N เนื่องจากยีน 1 ต าแหน่งจะมี 2 อัลลีล
                 ให้เท่ากับ N เพราะฉะนั้นจ านวนของยีนที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเท่ากับ 2N เนื่องจากยีน 1 ต าแหน่งจะมี 2 อัลลีล ให้เท่ากับ N เพราะฉะนั้นจ านวนของยีนที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเท่ากับ 2N เนื่องจากยีน 1 ต าแหน่งจะมี 2 อัลลีล ให้เท่ากับ N เพราะฉะนั้นจ านวนของยีนที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเท่ากับ 2N เนื่องจากยีน 1 ต าแหน่งจะมี 2 อัลลีล ให้เท่ากับ N เพราะฉะนั้นจ านวนของยีนที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเท่ากับ 2N เนื่องจากยีน 1 ต าแหน่งจะมี 2 อั
           กฎในกำรใช้สัมประสิทธิ์ค่ำบำท
 และก าหนดให้ยีน a เป็น ค่า q  ซึ่งจากประชากรที่มีการผสมกันอย่างสุ่มแล้ว ความถี่ของยีน a ในรุ่นลูกจะมี
                 และก าหนดให้ยีน a เป็น ค่า q  ซึ่งจากประชากรที่มีการผสมกันอย่างสุ่มแล้ว ความถี่ของยีน a ในรุ่นลูกจะมีและก าหนดให้ยีน a เป็น ค่า q  ซึ่งจากประชากรที่มีการผสมกันอย่างสุ่มแล้ว ความถี่ของยีน a ในรุ่นลูกจะมีและก าหนดให้ยีน a เป็น ค่า q  ซึ่งจากประชากรที่มีการผสมกันอย่างสุ่มแล้ว ความถี่ของยีน a ในรุ่นลูกจะมีและก าหนดให้ยีน a เป็น ค่า q  ซึ่งจากประชากรที่มีการผสมกันอย่างสุ่มแล้ว ความถี่ของยีน a ในรุ่นลูกจะมี
                  1.   Law of complete determination

 โอกาสที่เกิดขึ้นจ านวน 2N+1 ค่า ซึ่งมีการกระจายตัว binomial คือ (a+b)  โดยเมื่อความถี่ของยีน A และ a    2  2 2
                                                   2
                 โอกาสที่เกิดขึ้นจ านวน 2N+1 ค่า ซึ่งมีการกระจายตัว binomial คือ (a+b)  โดยเมื่อความถี่ของยีน A และ a  โอกาสที่เกิดขึ้นจ านวน 2N+1 ค่า ซึ่งมีการกระจายตัว binomial คือ (a+b)  โดยเมื่อความถี่ของยีน A และ a  โอกาสที่เกิดขึ้นจ านวน 2N+1 ค่า ซึ่งมีการกระจายตัว binomial คือ (a+b)  โดยเมื่อความถี่ของยีน A และ a  โอกาสที่เกิดขึ้นจ านวน 2N+1 ค่า ซึ่งมีการกระจายตัว binomial คือ (a+b)  โดยเมื่อความถี่ของยีน A และ a
                                                                           2
                                            2N                2N!   2N 2N−a a 2N      2N2N  2N!         2N!2N!
                       แล้วจะมีโอกาสที่เกิดความถี่ของยีน a ในรุ่นลูก คือ a/2N นั่นคือ [แล้วจะมีโอกาสที่เกิดความถี่ของยีน a ในรุ่นลูก คือแล้วจะมีโอกาสที่เกิดความถี่ของยีน a ในรุ่น
                                                                                      2N!
                                                                         2N−a a2N−a a
                                                                                                               2N−a a2N−a a
                       เป็นกฎที่กล่าวถึงการแสดงออกของจีโนไทป์ที่เกิดจากผลรวมอิทธิพลของเซลล์สืบพันธุ์  a2N−a a
                                                                                            2N
                                                      q =
                 แล้วจะมีโอกาสที่เกิดความถี่ของยีน a ในรุ่นลูก คือ a/2N นั่นคือ [ p
 แล้วจะมีโอกาสที่เกิดความถี่ของยีน a ในรุ่นลูก คือ a/2N นั่นคือ [  ] p 2N−a a  ] p q   ] p a/2N นั่นคือ [ลูก คือ a/2N นั่นคือ [  p 2N−a a2N−a a−a q q  p=q =  q    p p  q  q
                                                                              q = q =] p] p
                                                                                                        (
           ก�าหนดให้                         a              (2N−a)!a!  a   a       (2N−a)!a! (2N−a)!a!  (2N−a)!a!2N−a)!a!
                                                                                       a a
 โดย             โดย   โดย         โดย  โดย
                       G                =      จีโนไทป์
 p    =  ความถี่ของยีน A  p    =  ความถี่ของยีน A =  ความถี่ของยีน A p  p   =   =  ความถี่ของยีน A =  ความถี่ของยีน A
                  p
                       g
                                               เซลล์สืบพันธุ์

                         และ g

                              2
                        1
 q     =  ความถี่ของยีน a  q    =  ความถี่ของยีน a =  ความถี่ของยีน a q   q     =  ความถี่ของยีน a =  ความถี่ของยีน a
                  q
                         และ a
                                               อิทธิพลของเซลล์สืบพันธุ์


                       a
 a   =  โอกาสที่จะพบยีน a  a   =  โอกาสที่จะพบยีน a  =  โอกาสที่จะพบยีน a  a  a  =   =  โอกาสที่จะพบยีน a  =  โอกาสที่จะพบยีน a
                  a
                              2
                        1
                       r
                                               ความสัมพันธ์ของเซลล์สืบพันธุ์ g และ g
 N   =      จ านวนต้นในประชากร  N  g  =     จ านวนต้นในประชากร =  จ านวนต้นในประชากร N N  =   =  จ านวนต้นในประชากร =  จ านวนต้นในประชากร
                    N

                       g
                        1     2                                           1     2
 และได้มีการหาความแปรปรวนของความถี่ของยีนในประชากร ซึ่งเป็นผลต่างของค่าความถี่ของยีน a
                        และได้มีการหาความแปรปรวนของความถี่ของยีนในประชากร ซึ่งเป็นผลต่างของค่าความถี่ของยีน a และได้มีการหาความแปรปรวนของความถี่ของยีนในประชากร ซึ่งเป็นผลต่างของค่าความถี่ของยีน a และได้มีการหาความแปรปรวนของความถี่ของยีนในประชากร ซึ่งเป็นผลต่างของค่าความถี่ของยีน a และได้มีการหาความแปรปรวนของความถี่ของยีนในประชากร ซึ่งเป็นผลต่างของค่าความถี่ของยีน a


                       รูปแบบแสดงของจีโนไทป์ คือ G = a g + a g
                                                          2 2
                                                     1 1
 ของแต่ละสายพันธุ์ (q ) กับความถี่ของยีน a ของประชากรเดิม (q) คือ δ = (q − q) ซึ่งหาได้จากสูตร
                 ของแต่ละสายพันธุ์ (q ) กับความถี่ของยีน a ของประชากรเดิม (q) คือ δ = (q − q) ซึ่งหาได้จากสูตร ของแต่ละสายพันธุ์ (q ) กับความถี่ของยีน a ของประชากรเดิม (q) คือ δ = (q − q) ซึ่งหาได้จากสูตร ของแต่ละสายพันธุ์ (q ) กับความถี่ของยีน a ของประชากรเดิม (q) คือ δ = (q − q) ซึ่งหาได้จากสูตร ของแต่ละสายพันธุ์ (q ) กับความถี่ของยีน a ของประชากรเดิม (q) คือ δ = (q − q) ซึ่งหาได้จากสูตร
                       เมื่อท�าการหาความแปรปรวนจะได้
           j                      j      j        q j  j  j               q     jq     j    q q   j  j
                                                              pq
                                                       pq
                                                             (1 − q)q (1 − q)q pqpq
                                                                               (1 − q)q1 − q)q
                          σ 2 2  =  pq  (1 − q)q    a    + a = σ 2 2   + 2a a r   = σ 2 2  =   = =  (
                                        =
                                                  2 2
                                                       2
                                                2
                                   =
                                                           ==
                                                 σ
                                                                       =σ
                           G    2N      2N      1     q g δ 1  2     q g δ  2N  g g  g δ q δ q g 2  2N2N
                                δ q
                                                       2N 2
                                                              1 2       11 2
                                                                      2N 2N2N
                                                               2N


                         r
                                        =

 σ    =  ค่าความแปรปรวนของผลต่างของความถี่ของยีน a  จะเป็นค่า F
                    σ   g g
                            =  ค่าความแปรปรวนของผลต่างของความถี่ของยีน a ค่าความแปรปรวนของผลต่างของความถี่ของยีน a ค่าความแปรปรวนของผลต่างของความถี่ของยีน a ค่าความแปรปรวนของผลต่างของความถี่ของยีน a
                                              = =
                                  =
 2
                     2
                            2
                           σ
                                      σ  σ
                                        2 2
 δ q                        δ q 2
                     δ q   1            δ q δ q

                  ซึ่งผลรวมของอิทธิพลจะเท่ากับ 1 เสมอ และเมื่อมีการ standardized จะได้ค่า
 ตัวอย่าง ท าการสุ่มเมล็ดพืช 50 เมล็ด จากประชากรขนาดใหญ่ โดยก าหนดให้ความถี่ของยีน a มีค่าเท่ากับ
                 ตัวอย่าง ท าการสุ่มเมล็ดพืช 50 เมล็ด จากประชากรขนาดใหญ่ โดยก าหนดให้ความถี่ของยีน a มีค่าเท่ากับ ตัวอย่าง ท าการสุ่มเมล็ดพืช 50 เมล็ด จากประชากรขนาดใหญ่ โดยก าหนดให้ความถี่ของยีน a มีค่าเท่ากับ ตัวอย่าง ท าการสุ่มเมล็ดพืช 50 เมล็ด จากประชากรขนาดใหญ่ โดยก าหนดให้ความถี่ของยีน a มีค่าเท่ากับ ตัวอย่าง ท าการสุ่มเมล็ดพืช 50 เมล็ด จากประชากรขนาดใหญ่ โดยก าหนดให้ความถี่ของยีน a มีค่าเท่ากับ
                                                    2
                                                2
                         1              =      a + a + 2a a r
                                                         1 2 g g
 0.5 และความถี่ของยีน A เท่ากับ 0.5 แล้วจะพบการกระจายตัวของความถี่ขอ 2งยีนที่มีค่าความน่าจะเป็นของ
                 0.5 และความถี่ของยีน A เท่ากับ 0.5 แล้วจะพบการกระจายตัวของความถี่ของยีนที่มีค่าความน่าจะเป็นของ0.5 และความถี่ของยีน A เท่ากับ 0.5 แล้วจะพบการกระจายตัวของความถี่ของยีนที่มีค่าความน่าจะเป็นของ0.5 และความถี่ของยีน A เท่ากับ 0.5 แล้วจะพบการกระจายตัวของความถี่ของยีนที่มีค่าความน่าจะเป็นของ0.5 และความถี่ของยีน A เท่ากับ 0.5 แล้วจะพบการกระจายตัวของความถี่ของยีนที่มีค่าความน่าจะเป็นของ
                                                1
                                                             1 2
 การกระจายตัวดังนี้ จากสูตตร  การกระจายตัวดังนี้ จากสูตตร การกระจายตัวดังนี้ จากสูตตร การกระจายตัวดังนี้ จากสูตตร การกระจายตัวดังนี้ จากสูตตร
                  2. Independent cause กล่าวถึงในกรณีที่ g  และ g  ไม่มีความสัมพันธ์กัน นั่นคือ r      = 0
                                                                                         g g
                                  pq
                                                          pq
                                                                pq
                   σ       =              σ      σ 2 =     =    σ  σ     = =   pqpq       1 2
                                                         1
                    2

                                                                2 2
                                            2
                                                              2
                    δ q                     δ q   δ q         δ q δ q
                                  2N                     2N     2N          2N2N
 แทนค่า           แทนค่า  แทนค่า    แทนค่า  แทนค่า
                   σ       =      0.5 × 0.5   σ    2 =     0.5 × 0.50.5 × 0.5     0.5 × 0.50.5 × 0.5
                    2

                                            2

                                                              2 2
                    δ q                     δ q  σ δ q   =  σ  σ     = =
                                                              δ q δ q
                                   2(50)                   2(50) 2(50)       2(50)2(50)
                                                           0.5 × 0.50.5 × 0.5
                   σ       =      √ 0.5 × 0.5    σ  =     √ =  σ  σ      = =   0.5 × 0.50.5 × 0.5
                                          σ

                    δ q                     δ q   δ q         δ q √ δ q     √ √
                                     2(50)                   2(50) 2(50)       2(50)2(50)
   114   115   116   117   118   119   120   121   122   123   124