Page 115 -
P. 115
92
92
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
อิทธิพลของประชากรขนาดเล็ก (genetic drift) จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนที่เกิดจาก
92
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
อิทธิพลของประชากรขนาดเล็ก (genetic drift) จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนที่เกิดจาก
อิทธิพลของประชากรขนาดเล็ก (genetic drift) จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนที่เกิดจาก
กลายยีน การอพยพ และการคัดเลือกจะเป็นการคัดเลือกที่เป็นแบบมีทิศทางซึ่งประชากรจะมีขนาดใหญ่
92
92
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
กลายยีน การอพยพ และการคัดเลือกจะเป็นการคัดเลือกที่เป็นแบบมีทิศทางซึ่งประชากรจะมีขนาดใหญ่
กลายยีน การอพยพ และการคัดเลือกจะเป็นการคัดเลือกที่เป็นแบบมีทิศทางซึ่งประชากรจะมีขนาดใหญ่
ในขณะที่ประชากรที่มีขนาดเล็กจะไม่มีทิศทางในการเกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนซึ่งโอกาสที่ยีนจะ
อิทธิพลของประชากรขนาดเล็ก (genetic drift) จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนที่เกิดจาก
ในขณะที่ประชากรที่มีขนาดเล็กจะไม่มีทิศทางในการเกิดการเปลี่ย
อิทธิพลของประชากรขนาดเล็ก (genetic drift) จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนที่เกิดจากนแปลงความถี่ของยีนซึ่งโอกาสที่ยีนจะ
อิทธิพลของประชากรขนาดเล็ก (genetic drift) จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนที่เกิดจาก
ในขณะที่ประชากรที่มีขนาดเล็กจะไม่มีทิศทางในการเกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนซึ่งโอกาสที่ยีนจะ
ปรากฏได้นั้นอาศัยความน่าจะเป็นในการคงอยู่ของยีน ซึ่งประชากรที่มีขนาดเล็กนี้ จะมีจ านวนของประชากร
กลายยีน การอพยพ และการคัดเลือกจะเป็นการคัดเลือกที่เป็นแบบมีทิศทางซึ่งประชากรจะมีขนาดใหญ่
กลายยีน การอพยพ และการคัดเลือกจะเป็นการคัดเลือกที่เป็นแบ
กลายยีน การอพยพ และการคัดเลือกจะเป็นการคัดเลือกที่เป็นแบบมีทิศทางซึ่งประชากรจะมีขนาดใหญ่ บมีทิศทางซึ่งประชากรจะมีขนาดใหญ่ กร
ปรากฏได้นั้นอาศัยความน่าจะเป็นในการคงอยู่ของยีน ซึ่งประชากรที่มีขนาดเล็กนี้ จะมีจ านวนของประชา
ปรากฏได้นั้นอาศัยความน่าจะเป็นในการคงอยู่ของยีน ซึ่งประชากรที่มีขนาดเล็กนี้ จะมีจ านวนของประชากร
ให้เท่ากับ N เพราะฉะนั้นจ านวนของยีนที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเท่ากับ 2N เนื่องจากยีน 1 ต าแหน่งจะมี 2 อัลลีล
ในขณะที่ประชากรที่มีขนาดเล็กจะไม่มีทิศทางในการเกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนซึ่งโอกาสที่ยีนจะ
ในขณะที่ประชากรที่มีขนาดเล็กจะไม่มีทิศทางในการเกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนซึ่งโอกาสที่ยีนจะ2N เนื่องจากยีน 1 ต าแหน่งจะมี 2 อัลลีล
ให้เท่ากับ N เพราะฉะนั้นจ านวนของยีนที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเท่ากับ
ให้เท่ากับ N เพราะฉะนั้นจ านวนของยีนที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเท่ากับ 2N เนื่องจากยีน 1 ต าแหน่งจะมี 2 อัลลีล ลงความถี่ของยีนซึ่งโอกาสที่ยีนจะ
ในขณะที่ประชากรที่มีขนาดเล็กจะไม่มีทิศทางในการเกิดการเปลี่ยนแป
และก าหนดให้ยีน a เป็น ค่า q ซึ่งจากประชากรที่มีการผสมกันอย่างสุ่มแล้ว ความถี่ของยีน a ในรุ่นลูกจะมี
ปรากฏได้นั้นอาศัยความน่าจะเป็นในการคงอยู่ของยีน ซึ่งประชากรที่มีขนาดเล็กนี้ จะมีจ านวนของประชากร
และก าหนดให้ยีน a เป็น ค่า q ซึ่งจา
ปรากฏได้นั้นอาศัยความน่าจะเป็นในการคงอยู่ของยีน ซึ่งประชากรที่มีขนาดเล็กนี้ จะมีจ านวนของประชากร
2กประชากรที่มีการผสมกันอย่างสุ่มแล้ว ความถี่ของยีน a ในรุ่นลูกจะมี
ปรากฏได้นั้นอาศัยความน่าจะเป็นในการคงอยู่ของยีน ซึ่งประชากรที่มีขนาดเล็กนี้ จะมีจ านวนของประชากร
และก าหนดให้ยีน a เป็น ค่า q ซึ่งจากประชากรที่มีการผสมกันอย่างสุ่มแล้ว ความถี่ของยีน a ในรุ่นลูกจะมี
โอกาสที่เกิดขึ้นจ านวน 2N+1 ค่า ซึ่งมีการกระจายตัว binomial คือ (a+b) โดยเมื่อความถี่ของยีน A และ a
ให้เท่ากับ N เพราะฉะนั้นจ านวนของยีนที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเท่ากับ 2N เนื่องจากยีน 1 ต าแหน่งจะมี 2 อัลลีล
ให้เท่ากับ N เพราะฉะนั้นจ านวนของยีนที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเท่ากับ 2N
โอกาสที่เกิดขึ้นจ านวน 2N+1 ค่า ซึ่งมีการกระจายตัว binomial คือ (a+b)
2
ให้เท่ากับ N เพราะฉะนั้นจ านวนของยีนที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเท่ากับ 2N เนื่องจากยีน 1 ต าแหน่งจะมี 2 อัลลีล เนื่องจากยีน 1 ต าแหน่งจะมี 2 อัลลีล
โอกาสที่เกิดขึ้นจ านวน 2N+1 ค่า ซึ่งมีการกระจายตัว binomial คือ (a+b) โดยเมื่อความถี่ของยีน A และ a โดยเมื่อความถี่ของยีน A และ a
2
และก าหนดให้ยีน a เป็น ค่า q ซึ่งจากประชากรที่มีการผสมกันอย่างสุ่มแล้ว ความถี่ของยีน a ในรุ่นลูกจะมี
2N!
2N−a a
q
แล้วจะมีโอกาสที่เกิดความถี่ของยีน a ในรุ่นลูก คือ a/2N นั่นคือ [
q =
และก าหนดให้ยีน a เป็น ค่า q ซึ่งจา
2กประ
และก าหนดให้ยีน a เป็น ค่า q ซึ่งจากประชากรที่มีการผสมกันอย่างสุ่มแล้ว ความถี่ของยีน a ในรุ่นลูกจะมี
a
2N
2N
แล้วจะมีโอกาสที่เกิดความถี่ของยีน a ในรุ่นลูก คือ a/2N นั่น
2N!
โอกาสที่เกิดขึ้นจ านวน 2N+1 ค่า ซึ่งมีการกระจายตัว binomial คือ (a+b)
2N!
] p โดยเมื่อความถี่ของยีน A และ a
2N−a aชากรที่มีการผสมกันอย่างสุ่มแล้ว ความถี่ของยีน a ในรุ่นลูกจะมี a
pคือ [
q ] p
q =
q =
แล้วจะมีโอกาสที่เกิดความถี่ของยีน a ในรุ่นลูก คือ a/2N นั่นคือ [
โดย
a
a
(2N−a)!a!
2
โอกาสที่เกิดขึ้นจ านวน 2N+1 ค่า ซึ่งมีการกระจายตัว binomial คือ (a+b) โดยเมื่อความถี่ของยีน A และ a
โอกาสที่เกิดขึ้นจ านวน 2N+1 ค่า ซึ่งมีการกระจายตัว binomial คือ (a+b) โดยเมื่อความถี่ของยีน A และ a
2
2N
2N!
2N−a a
โดย
q
2N−a a
โดย
แล้วจะมีโอกาสที่เกิดความถี่ของยีน a ในรุ่นลูก คือ a/2N นั่นคือ [
p
q =
] p
a
(2N−a)!a!
= ความถี่ของยีน A แล้วจะมีโอกาสที่เกิดความถี่ของยีน
2N
2N
2N!
p
2N!
2N−a a
2N−a a
q
2N−a a
2N−a a
q =
] p a ในรุ่นลูก คือ a/2N นั่นคือ [
q ] p
p
p
q =
แล้วจะมีโอกาสที่เกิดความถี่ของยีน a ในรุ่นลูก คือ a/2N นั่นคือ [
a
(2N−a)!a!
a
โดย
(2N−a)!a!
= ความถี่ของยีน A
= ความถี่ของยีน A p
p q
= ความถี่ของยีน a
โดย
โดย 92 พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์ 2N ] p 2N−a a (2N−a)!a! p 2N−a a 2N−a a (2N−a)!a! p 2N−a q
= ความถี่ของยีน a q
= ความถี่ของยีน a
q
= โอกาสที่จะพบยีน a
a
= ความถี่ของยีน A หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
p
โครงการ
a = โอกาสที่จะพบยีน a a = โอกาสที่จะพบยีน a
= จ านวนต้นในประ
p N
= ความถี่ของยีน A
= ความถี่ของยีน A ชากร p
q
= ความถี่ของยีน a
N
N = จ านวนต้นในประชากร q = จ านวนต้นในประชากร
108
= ความถี่ของยีน a
q และได้มีการหาความแปรปรวนของความถี่ของยีนในประชากร ซึ่งเป็นผลต่างของค่าความถี่ของยีน a
= ความถี่ของยีน a
a
= โอกาสที่จะพบยีน a
พันธุศาสตร์ประชากร
สำาหรับการปรับปรุงพันธุ์
และได้มีการหาความแปรปรวนของความถี่ของยีนในประชากร ซึ่งเป็นผลต่างของค่าความถี่ของยีน a
และได้มีการหาความแปรปรวนของความถี่ของยีนในประชากร ซึ่งเป็นผลต่างของค่าความถี่ของยีน a
= โอกาสที่จะพบยีน a
= โอกาสที่จะพบยีน a a
a ของแต่ละสายพันธุ์ (q ) กับความถี่ของยีน a ของประชากรเดิม (q) คือ δ = (q − q) ซึ่งหาได้จากสูตร
= จ านวนต้นในประชากร
N
j
j
q
ของแต่ละสายพันธุ์ (q ) กับความถี่ของยีน a ของประชากรเดิม (q) คือ δ = (q − q) ซึ่งหาได้จากสูตร คือ δ = (q − q) ซึ่งหาได้จากสูตร
ของแต่ละสายพันธุ์ (q ) กับความถี่ของยีน a ของประชากรเดิม (q)
= จ านวนต้นในประชากร N
= จ านวนต้นในประชากร
N
ก�าหนดให้
และได้มีการหาความแปรปรวนของความถี่ของยีนในประชากร ซึ่งเป็นผลต่างของค่าความถี่ของยีน a
q
j
j
q
j
j
(1 − q)q
pq
(g - g )
2
δ q และได้มีการหาความแปรปรวนของความถี่ของยีนในประชากร ซึ่งเป็นผลต่างของค่าความถี่ของยีน a
และได้มีการหาความแปรปรวนของความถี่ของยีนในประชากร ซึ่งเป็นผลต่างของค่าความถี่ของยีน a
=
=
g σ
1 (q − q) ซึ่งหาได้จากสูตร
1
=
g
a
2N
2N
ของแต่ละสายพันธุ์ (q ) กับความถี่ของยีน a ของประชากรเดิม (q) คือ δ = j 2 1 pq (1 − q)q
pq
g
(1 − q)q
= r = b × G
j
q
2
1
1
=
=
g σ
2N(q) คือ δ = (q − q) ซึ่งหาได้จากสูตร คือ δ = (q − q) ซึ่งหาได้จากสูตร
1 σ
1
=
ของแต่ละสายพันธุ์ (q ) กับความถี่ของยีน a ของประชากรเดิม ) กับความถี่ของยีน a ของประชากรเดิม (q)
=
1
= ค่าความแปรปรวนของผลต่างของความถี่ของยีน a
δ q
2N
2
2N
σ
2N
ของแต่ละสายพันธุ์ (q
G δ q
j
δ q j pq (1 − q)q q j q j
= ค่าความแปรปรวนของผลต่างของความถี่ของยีน a
g σ σ
2 2
σ = ค่าความแปรปรวนของผลต่างของความถี่ของยีน a (g - g )
2
=
=
2N
δ q
pq
δ q a = r = b × g G δ 2 q 2N (1 − q)q g = 2 2 2 pq (1 − q)q
2
ตัวอย่าง ท าการสุ่มเมล็ดพืช 50 เมล็ด จากประชากรขนาดใหญ่ โดยก าหนดให้ความถี่ของยีน a มีค่าเท่ากับ
2
=
=
2
g σ
=
2
2 σ
=
2
δ q
2N
= ค่าความแปรปรวนของผลต่างของความถี่ของยีน a
2N
G δ q
2N
2N
2
σ
ตัวอย่าง ท าการสุ่มเมล็ดพืช 50 เมล็ด จากประชากรขนาดใหญ่ โดยก าหนดให้ความถี่ของยีน a มีค่าเท่ากับ
ตัวอย่าง ท าการสุ่มเมล็ดพืช 50 เมล็ด จากประชากรขนาดใหญ่ โดยก าหนดให้ความถี่ของยีน a มีค่าเท่ากับ
0.5 และความถี่ของยีน A เท่ากับ 0.5 แล้วจะพบการกระจายตัวของความถี่ของยีนที่มีค่าความน่าจะเป็นของ
δ q
= ค่าความแปรปรวนของผลต่างของความถี่ของยีน a
σ
2
2
σ
δ q
δ q = ค่าความแปรปรวนของผลต่างของความถี่ของยีน a
0.5 และความถี่ของยีน A เท่ากับ 0.5 แล้วจะพบการกระจายตัวของความถี่ของยีนที่มีค่าความน่าจะเป็นของ
0.5 และความถี่ของยีน A เท่ากับ 0.5 แล้วจะพบการกระจายตัวของความถี่ของยีนที่มีค่าความน่าจะเป็นของ
a และ a เป็นค่าสัมประสิทธิ์ค่าบาท (path coefficient) และ ค่า g และ g เป็นอิทธิพลที่มาจากยีน
การกระจายตัวดังนี้ จากสูตตร
ตัวอย่าง ท าการสุ่มเมล็ดพืช 50 เมล็ด จากประชากรขนาดใหญ่ โดยก าหนดให้ความถี่ของยีน a มีค่าเท่ากับ
2
1
ตัวอย่าง ท าการสุ่มเมล็ดพืช 50 เมล็ด จากประชากรขนาดใหญ่ โดยก าหนดให้ความถี่ของยีน a มีค่าเท่ากับ
การกระจายตัวดังนี้ จากสูตตร การกระจายตัวดังนี้ จากสูตตร 1 2
ตัวอย่าง ท าการสุ่มเมล็ดพืช 50 เมล็ด จากประชากรขนาดใหญ่ โดยก าหนดให้ความถี่ของยีน a มีค่าเท่ากับ
0.5 และความถี่ของยีน A เท่ากับ 0.5 แล้วจะพบการกระจายตัวของความถี่ของยีนที่มีค่าความน่าจะเป็นของ
pq
σ
=
2
0.5 และความถี่ของยีน A เท่ากับ 0.5 แล้วจะพบการกระจายตัวของความถี่ของยีนที่มีค่าความน่าจะเป็นของ
0.5 และความถี่ของยีน A เท่ากับ 0.5 แล้วจะพบการกระจายตัวของความถี่ของยีนที่มีค่าความน่าจะเป็นของ
δ q
การกระจายตัวดังนี้ จากสูตตร
pq
2N
pq
σ
2
2
=
แทนค่า
การกระจายตัวดังนี้ จากสูตตร σ การกระจายตัวดังนี้ จากสูตตร δ q = 2N
δ q
2N
แทนค่า 2 แทนค่า 0.5 × 0.5
pq
2 σ
σ = 2N pq
=
δ q
pq
σ
δ q
=
2(50)
2
แทนค่า σ = 0.5 × 0.5 σ 2 2 δ q = 0.5 × 0.5
σ
=
2 δ q
δ q 2N δ q 2N
2(50)
แทนค่า แทนค่า 2(50)
0.5 × 0.5
σ = = 0.5 × 0.5
2
σ
δ δ q q √ 2(50) 0.5 × 0.5 0.5
2(50)
0.5 ×
0.5 × 0.5
=
σ = = √ 0.5 × 0.5 σ δ 2 δ q q = √
2
σ
σ
δ
δ q q
2(50)
2(50) 2(50)
2(50)
0.5 × 0.5
σ = √
δ q 0.5 × 0.5 0.5 × 0.5
2(50)
σ = √ σ = √
δ q δ q
2(50) 2(50)
จะเห็นได้ว่า r g G = a + a r และ r = a + a r g g
g g
g G
2
1
1
2
2
1 2
1 2
1
ส�าหรับการหาความสัมพันธ์ระหว่างเซลล์สืบพันธุ์ g และ g (r ) สามารถหาได้จากการ
g g
1 2
1 2
แก้สมการเมทริกซ์หรือจากสูตร ซึ่งมีตัวอย่างการค�านวณจากข้อมูล 2 แบบ โดยแบบที่ 1 จะเป็นค่า
r g g = 0 ส่วนแบบที่ 2 จะมีความสัมพันธ์ระหว่างเซลล์สืบพันธุ์ โดยก�าหนดให้ X และ Y เป็นเซลล์สืบพันธุ์
1 2
ส่วน Z เป็นจีโนไทป์ที่ปรากฏของสิ่งมีชีวิต