Page 5 -
P. 5
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โครงการ การพัฒนาฐานข้อมูลห่วงโซ่อุปทานของหญ้าเนเปียร์ พืชพลังงาน-อาหารสัตว์ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือไทย
7. สิ่งที่ได้รับ
เกษตรกร : องค์ความรู้ด้านคุณภาพ ผลิตภาพ การจัดการการผลิต การจัดการหลังการเก็บเกี่ยวและ
การตลาดหญ้า เนเปียร์เป็นเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจ อีกทั้งสามารถนำไปเป็นข้อมูลพื้นฐานด้านเครือข่าย
เกษตรกร พ่อค้า ผู้ประกอบการ ในระดับต่างๆ
หน่วยงานรัฐ : ผลการศึกษา ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในระยะสั้น ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในระยะยาว
ไปใช้ในการกำหนดแนวทางเพื่อให้การพัฒนา สนับสนุน และส่งเสริมเกษตรกรรมหญ้าเนเปียร์ระดับท้องถิ่น
อย่างยั่งยืน, ฐานข้อมูลของโซ่อุปทานหญ้าเนเปียร์ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือไทยประกอบการตัดสินใจใน
การกำหนดนโยบายของภาครัฐ ในการสร้างคุณค่าและมูลค่าของหญ้าเนเปียร์ เพื่อความสามารถในการแข่งขัน
และการปรับตัวภายใต้บริบทของ AEC
ภาคเอกชน : องค์ความรู้ ไปใช้เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจ
ภาคการศึกษา : ความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะในงานวิจัยอาจเป็นประโยชน์สำหรับการทำวิจัยครั้ง
ต่อๆ ไปหรือเพื่อจะได้ต่อยอดในผลงานวิจัยนั้นต่อเนื่องจากไป สามารถนำการวิจัยนี้ไปเป็นโครงวิจัยต้นแบบ
และขยายผลสู่ภูมิภาคอื่น การทำวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนานักวิจัยรุ่นใหม่ ให้สามารถเริ่มการวิจัยและพัฒนาได้
และดำเนินการวิจัยต่อไปได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาวอย่างมีคุณภาพ ผลจากการวิจัยครั้งนี้สามารถนำไป
ตีพิมพ์บทความในวารสารวิชาการระดับชาติหรือระดับนานาชาติอย่างน้อย 1 บทความ นอกจากนี้ผลงานวิจัย
นี้ถูกนำเผยแพร่ในที่ประชุมทางวิชาการระดับนานาชาติในรูปบรรยาย
ประชาชน : การประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภครับรู้ถึงทางเลือกของการสร้างรายได้และตระหนักถึง
ประโยชน์จากการเกษตร
8. บทสรุป
การวิเคราะห์โซ่อุปทานหญ้าเนเปียร์ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โซ่อุปทานหญ้าเนเปียร์ ประกอบด้วย เกษตรกรผู้ปลูกหญ้ารายเดี่ยวและกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกหญ้า
ระดับกลางน้ำ ได้แก่ เกษตรกรผู้รวบรวมผลผลิต ผู้รวบรวมอิสระและสหกรณ์ และระดับปลายน้ำ ได้แก่ ฟาร์ม
ปศุสัตว์และโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ
การวิเคราะห์โซ่อุปทานหญ้าเนเปียร์ สามารถจำแนกกิจกรรมหลักของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ดังนี้
1. กิจกรรมการจัดการแปลงหญ้า หญ้าเนเปียร์ขยายพันธุ์ด้วยลำต้นหรือท่อนพันธุ์ มีการเลือกพันธุ์
หญ้าเนเปียร์จากเกษตรกรรายอื่นที่ปลูกเพื่อการจำหน่าย หรือจากศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์
ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ความสมบูรณ์ของท่อนพันธุ์จะมีอายุประมาณ 80-100 วัน ตัดเป็นท่อนมีข้อ
ติดอยู่ 2 ข้อ สำหรับการปลูกและการจัดการแปลงหญ้า เกษตรกรปลูกบนพื้นที่ของตนและพื้นที่เช่า
ด้วยอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 1,200-1,500 บาทต่อไร่ต่อปี และจะอยู่ในบริเวณใกล้เคียงโรงงานอุตสาหกรรม
เกษตร โรงไฟฟ้า ฟาร์มปศุสัตว์ และที่ดินราชพัสดุ สำหรับการเตรียมดิน เกษตรกรผู้ปลูกหญ้าเนเปียร์
ครั้งที่ 1 ดำเนินการไถดะ และครั้งที่ 2 ไถพรวน 1-2 ครั้ง หรืออาจมีการไถระเบิดดินดาน มีการยกร่อง
ปลูก ปลูกแบบอ้อย หรือปลูกแบบวางลำต้นต่อกันในแนวนอนตามร่อง มีการใช้แรงงานคนหรือเครื่อง
ปลูก โดยใช้ท่อนพันธุ์ประมาณ 300 กิโลกรัมต่อไร่ และใช้ระยะปลูกระหว่างแถวประมาณ 100-120
เซนติเมตร ระยะระหว่างต้นหรือหลุมประมาณ 75-80 เซนติเมตร ส่วนใหญ่เริ่มปลูกหญ้าในช่วงเดือน
พฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม โดยส่วนใหญ่จะจ้างบุคคลภายนอก (Outsource) ที่เชี่ยวชาญและมี
เครื่องจักรพร้อมมาดำเนินการปลูก จึงมีการปลูกซ่อมลดลง มีการให้น้ำมากโดยเฉพาะในช่วงแรกหลัง
การปลูกหญ้า โดยสามารถแบ่งการให้น้ำในแปลงหญ้าออกเป็น 2 ประเภท คือ 1) แบบลงทุนในระบบ
น้ำ เช่น ติดตั้ง ระบบสปริงเกิ้ล บิ๊กกัน ระบบน้ำหยด หรือสูบน้ำจากบ่อเพื่อมารดหญ้าในแปลง
RDG6020008