Page 64 -
P. 64
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
64
บุคคลอาจจะพึงพอใจต่อนโยบายการเกษตรที่แตกต่างกัน นโยบายที่ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในพื้นที่
หนึ่งอาจจะไม่ประสบความสําเร็จในอีกพื้นที่หนึ่งก็อาจเป็นไปได้ เนื่องจากลักษณะและคุณภาพของ
สิ่งแวดล้อม ลักษณะของไร่นาที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ และสิ่งเหล่านี้ก็มีบทบาทสําคัญในการ
กําหนดต้นทุนที่แตกต่างกันในการดําเนินนโยบายต่างๆ ดังนั้นการจําแนกความนิยมที่แตกต่างกันต่อ
แนวนโยบายต่างๆ การพิจารณาถึงการกระจายของความนิยมในเชิงพื้นที่และความเต็มใจที่จะมีส่วน
ร่วมในนโยบายการยกระดับเกษตรยั่งยืนหรือนโยบายชดเชยเพื่อรักษาการบริการของระบบนิเวศใน
ระดับต่างๆจึงมีความสําคัญต่อการวางแผนโครงการที่มีประสิทธิภาพ การทราบมูลค่าการชดเชย
โดยประมาณและลักษณะที่แตกต่างกันในเชิงพื้นที่นั้นสามารถช่วยสร้างรูปแบบเชิงพื้นที่ของมูลค่าทาง
เศรษฐกิจและสามารถจําแนกพื้นที่ที่ก่อให้เกิดต้นทุนประสิทธิผลในการดําเนินนโยบายในแต่ละแบบ
ได้
การวิเคราะห์เชิงพื้นที่สามารถช่วยในการประเมินนโยบายการใช้ประโยชน์ที่ดินด้วยการ
แลกเปลี่ยนมูลค่า (trade off) จากบริการที่หลากหลายอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน และ
ช่วยในการออกแบบโครงการจ่ายค่าบริการ (payment schemes) จากข้อมูลเชิงพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลง ซึ่ง
เป็นการทําความเข้าใจตัวกําหนดเชิงพื้นที่ เช่น ที่ตั้งของพื้นที่ทางการเกษตร ขนาดพื้นที่การเกษตร
ลักษณะของดินที่ใช้เพื่อการเกษตร และมูลค่าที่สัมพันธ์กับสังคม (van Berkel et al., 2014) ไม่ว่าจะเป็น
เกษตรกรเองหรือว่าผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียจากการบริการนั้นๆ ความพึงพอใจของระบบนิเวศและระบบ
นิเวศบริการ เช่น การปรับปรุงคุณภาพนํ้า การจัดการการใช้ประโยชน์ที่ดินทางการเกษตร ซึ่งสามารถ
เชื่อมโยงกับลักษณะและการกระจายเชิงพื้นที่ งานวิจัยนี้ใช้การวิเคราะห์เชิงพื้นที่ในการศึกษา เช่น เรื่อง
รูปแบบเชิงพื้นที่ของความเต็มใจจ่ายสําหรับการปรับปรุงภูมิทัศน์หมู่บ้าน (Campbell et al., 2009) ใน
การประมาณรูปแบบเชิงพื้นที่ของความเต็มใจในการทําหน้าที่บริการของระบบนิเวศในพื้นที่
การเกษตร (Broch et al., 2013) การประเมินความพึงพอใจที่แตกต่างกันสัมพันธ์กับการกระจายเชิง
พื้นที่ของการพัฒนานํ้าผ่านพื้นที่รับนํ้าของแม่นํ้า (Brouwer et al., 2010) ศึกษาผลกระทบที่อาจจะ
เกิดขึ้นได้ของการกําหนดราคาคาร์บอนบนความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน
(Abson et al., 2014)