Page 135 -
P. 135
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
140000
120000 132,208 120,000
100000 60,000 60,000 60,000
80000 50,000 40,425 50,000 48,825 50,000 41,000 48,150 49,340 55,488 40,551 46,845
60000 33,225
40000 6,667 16,221 16,032 6,667 9,049 9,049 9,049
20000
0
คะน้า (บ้านโป่งคํา) กวางตุ้ง (บ้านโป่งคํา) แตงกวาญี่ปุ่น (บ้านโป่งคํา) ฟักแฟง (บ้านโป่งคํา) คะน้า (บ้านแม่จริม) กวางตุ้ง (บ้านแม่จริม) แตงกวาญี่ปุ่น (บ้านแม่จริม) ฟักแฟง (บ้านแม่จริม) เมล็ดพันธุ์แตงกวา (บ้านแม่จริม) เมล็ดพันธุ์แตงโม (บ้านแม่จริม) เมล็ดพันธุ์มะระ (บ้านแม่จริม) พริกหวาน (บ้านถ้ําเวียงแก)
ต้นทุนดูแลต่อรอบรวมเก็บเกี่ยว (หน่วย: บาท/ไร่/รอบ) ต้นทุนคงที่ (หน่วย: บาท)
รูปที่ 5.2 ต้นทุนต่อไร่ของพืชหมุนเวียน แบ่งตามโครงสร้างต้นทุน
นอกจากการแบ่งต้นทุนแบบต่างๆ แล้ว ผู้วิจัยได้แบ่งต้นทุนการดูแลรักษาพืชชนิดต่างๆ (พืชยืนต้นคือ
ต้นทุนการดูแลรวมเก็บเกี่ยวในแต่ละปีหลังการเก็บเกี่ยวได้ในปีแรก และของพืชหมุนเวียนคือต้นทุนตั้งแต่ปลูก
จนถึงเก็บเกี่ยว) ออกเป็นต้นทุนแรงงานและต้นทุนที่เป็นตัวเงินอื่นๆ ทั้งนี้ เนื่องจากเกษตรกรในพื้นที่เกือบ
ทั้งหมดใช้การเอาแรงระหว่างเกษตรกรด้วยกันเอง ไม่ได้ใช้การจ้างแรงงานที่ต้องจ่ายเป็นตัวเงิน ดังนั้นต้นทุน
แรงงานเหล่านี้จะเปรียบเสมือนเป็นการจ้างงานของเกษตรกรเอง โดยจะเสมือนว่าเกษตรกรได้รับเงิน
ค่าตอบแทนแรงงานของตนเองในส่วนนี้ด้วย ในขณะที่ต้นทุนอื่นๆ ที่เป็นตัวเงินจะสะท้อนถึงภาระทางการเงิน
ที่แท้จริงของการปลูกพืชแต่ละชนิด เมื่อเปรียบเทียบต้นทุนแรงงานและต้นทุนที่เป็นตัวเงินอื่นๆ ระหว่างพืชแต่
ละชนิดพบว่า การปลูกไม้ยืนต้น (ทั้งมะม่วงและกาแฟ) มีต้นทุนเงินสดและต้นทุนแรงงานค่อนข้างต่ําเมื่อเทียบ
กับพืชอื่นๆ ในขณะที่การปลูกพืชโรงเรือนและเมล็ดพันธุ์มีต้นทุนแรงงานต่อไร่ที่ค่อนข้างสูงมาก โดยเฉพาะการ
ปลูกแตงกวาญี่ปุ่น เนื่องจากต้องการการดูแลมากกว่าไม้ยืนต้นมาก นอกจากนี้ สาเหตุที่ทําให้ต้นทุนการดูแล
ต่อปีของบ้านโป่งคําสูงกว่าบ้านแม่จริม มาจากลักษณะการจัดสรรเวลาดูแลไร่ของเกษตรในบ้านโป่งคําที่ทําให้
ต้นทุนแรงงานของบ้านโป่งคําสูงกว่าของบ้านแม่จริม
5-22