Page 43 -
P. 43
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
16-34
(10.4) สรุปความสอดคลองของนโยบายทั้ง 3 แหลง
“ในชวงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 10 มีรัฐบาลเขามาบริหาร
ประเทศรวม 5 คณะ นโยบายจากแผนพัฒนาฯ นโยบายที่รัฐบาลแถลงตอรัฐสภา และนโยบายจาก
คณะรัฐมนตรีและการดําเนินการมีความสอดคลองในเรื่องการบริหารจัดการน้ํา การพัฒนาแหลงน้ํา
การขยายพื้นที่ชลประทาน การบรรเทาอุทกภัยและภัยแลง การจัดการน้ําเสีย การผันน้ําเพิ่มปริมาณน้ํา
ตนทุน นโยบายที่แตกตางของคณะรัฐบาลคือ การชลประทานระบบทอของรัฐบาลคณะที่ 57 ที่ไมมีผลในทาง
ปฏิบัติจากคณะรัฐมนตรีและไมมีนโยบายจากรัฐบาลคณะอื่น รวมทั้งการเพิ่มศักยภาพขององคกรปกครอง
ทองถิ่นในการบําบัดน้ําเสียของรัฐบาลคณะที่ 59 ก็ไมมีปรากฏในนโยบายของรัฐบาลคณะอื่นๆ ทั้งๆ ที่การ
ควบคุมและบรรเทาน้ําเสียไดกําหนดไวเปนนโยบายในแผนพัฒนาฯ ฉบับนี้”
(11) นโยบายน้ําในชวงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 11
(พ.ศ. 2554 – 2559 )
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2554 -2559) อยูในชวงการ
บริหารของรัฐบาล 2 คณะ คือ รัฐบาลคณะที่ 60 มี น.ส. ยิ่งลักษณ ชินวัตร เปนนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล
คณะที่ 61 มี พลเอก ประยุทธ จันทรโอชา เปนนายกรัฐมนตรี
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 11 ไดรายงานถึงปญหาน้ําไววา “ปญหา
การขาดแคลนน้ําและภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งอุทกภัยและปญหาภัยแลงมีแนวโนมจะเกิดขึ้นบอยครั้งและทวี
ความรุนแรงขึ้น โดยความสามารถเก็บกักน้ําเพื่อนํามาใชงานไดในฤดูแลง มีเพียง 74,000 ลานลูกบาศกเมตร
สามารถใชไดจริงเพียงปละประมาณ 55,000 ลานลูกบาศกเมตร สนองความตองการใชน้ําไดเฉพาะในพื้นที่
ชลประทานเทานั้น ขณะที่ความตองการใชน้ําจะเพิ่มขึ้นจาก 57,452 ลานลูกบาศกเมตรตอป ในป 2551 เปน
65,452 ลานลูกบาศกเมตรตอป ในป 2559 โดยภาคกลางมีความตองการใชน้ํามากที่สุด รองลงมาคือ ภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต ตามลําดับ ดังนั้น โอกาสมีความรุนแรงของปญหาการขาดแคลน
น้ํา และความขัดแยงจากการแยงชิงน้ําระหวางลุมน้ําและระหวางภาคการผลิตจะเพิ่มสูงขึ้นในทุกสาขาการ
ผลิต ทั้งนี้ หมูบานที่มีความเสี่ยงตอการเกิดภัยแลงในระดับปานกลางถึงระดับรุนแรงมีประมาณรอยละ 34.0
ของจํานวนหมูบานทั้งประเทศ โดยลุมน้ําภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีความเสี่ยงมากที่สุด ในขณะที่มี
หมูบานเสี่ยงตออุทกภัย น้ําหลากและดินถลมมี 2,370 หมูบาน โดยหมูบานที่เสี่ยงภัยสูงมี 398 หมูบาน
ทั้งนี้ ภาคเหนือมีความเสี่ยงมากที่สุด สาเหตุสําคัญเกิดจากการที่พื้นที่ปาตนน้ําถูกบุกรุกทําลาย” (สํานักงาน
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ, 2554: 100)
(11.1) สาระสําคัญของนโยบายน้ําในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 11
การพัฒนาทรัพยากรน้ําในชวงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 11 ไดมีแนวทางการพัฒนาโดยเนน 4
แนวทาง คือ (1) เรงรัดการบริหารจัดการน้ําแบบบูรณาการ เพื่อสนับสนุนความมั่นคงดานอาหารและ
พลังงาน และลดปญหาอุทกภัยและภัยแลงไดอยางยั่งยืน (2) พัฒนาปรับปรุงและฟนฟูแหลงน้ํา เพื่อเพิ่ม
ปริมาณน้ําตนทุนในแหลงน้ําที่มีศักยภาพในการเก็บกักน้ํา (3) พัฒนาและสงเสริมใหเกิดการใชน้ําอยางมี
ประสิทธิภาพคุมคาและไมสงผลกระทบตอสิ่งแวดลอม (4) จัดทําแผนแมบทโครงสรางพื้นฐานดานทรัพยากร
น้ําเพื่อการอุปโภคบริโภคอยางเปนระบบ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 11 มีความตอเนื่องกับแผนพัฒนาฯ
ฉบับที่ 10 ในเรื่อง พัฒนาแหลงน้ํา ลดปญหาอุทกภัยและภัยแลง เพิ่มประสิทธิภาพการใชน้ํา นโยบายที่
เพิ่มเติมคือ การจัดทําแผนแมบทโครงสรางพื้นฐานดานทรัพยากรน้ําเพื่อการอุปโภคและบริโภคอยางเปนระบบ