Page 65 -
P. 65
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
61
บทที่ 6
โครโมโซมในระหวางการแบงเซลลแบบไมโตซิส
(Chromosome during Mitosis)
6.1 คํานํา
โดยปกติสิ่งมีชีวิตจะตองมีการแบงเซลล (cell division) ถาเปนเนื้อเยื่อเซลลรางกาย
(somatic tissue) การแบงเซลลเกิดขึ้นเพื่อเพิ่มจํานวนเซลล (cell multiplication) ทําใหสิ่งมีชีวิตมีขนาด
และรูปรางใหญขึ้น แตถาเปนเนื้อเยื่อเซลลสืบพันธุ (gametic tissue) การแบงเซลลเกิดขึ้นเพื่อสราง
เซลลสืบพันธุสําหรับการผสมพันธุ หรือการรวมกันระหวางไข (egg) และสเปรม sperm
ในกระบวนการแบงเซลลรางกายทั่วไปแบงออกเปน 2 ขั้นตอน คือ 1) การแบงนิวเคลียส
เรียกวา แครีโอไคเนซิส (karyokinesis) หรือที่รูจักกันทั่วไปวาไมโตซิส (mitosis) 2) การแบงไซโต
พลาสซึม เรียกวา ไซโตไคเนซิส (cytokinesis) ในระหวางการแบงนิวเคลียสหนวยพันธุกรรมที่อยูบน
โครโมโซมจะถูกถายทอดไปสูนิวเคลียสใหมทั้งหมด ติดตามดวยไซโตไคเนซิสซึ่งไซโตพลาสซึม
และองคประกอบตาง ๆ ในไซโตพลาสซึมจะถูกแบงออกเปน 2 สวนลอมรอบนิวเคลียสใหมทั้งสอง
นั้น เนื่องจากโครโมโซมเปนตัวนําพาหนวยพันธุกรรมดังนั้นในบทนี้จะอธิบายการเกิดไมโตซิสอยาง
ละเอียด กระบวนการไมโตซิสแบงออกเปนขั้นตอนสําคัญ ๆ ตามลําดับดังนี้ คือ โปรเฟส (prophase)
เมตาเฟส (metaphase) อะนาเฟส (anaphase) และเทโลเฟส (telophase) อยางไรก็ตามเพื่อใหเขาใจ
ถึงวัฎจักรเซลล (cell cycle) ทั้งหมด ก็ควรจะทราบถึงกระบวนการที่เกิดขึ้นในระยะกอนเริ่มการแบง
เซลลแบบไมโตซิส ซึ่งเรียกวา ระยะอินเตอรเฟส (interphase)
6.2 ระยะอินเตอรเฟส
ในระยะนี้สายใยโครมาตินซึ่งบรรจุวัสดุพันธุกรรม (genetic material) กระจายอยูทั่วไปใน
นิวเคลียสของเซลล ในบางครั้งอาจเห็นนิวคลีโอลัส และโครโมเซนเตอรซึ่งเปนบริเวณที่ยอมติดสีเขม
ดวย (รูปที่ 6.1 และ 6.2) อินเตอรเฟสเปนชวงที่ยาวที่สุดของวัฎจักรเซลล เนื่องจากที่ระยะนี้เซลลมีการ
สะสมวัตถุดิบ พลังงาน และมีการสังเคราะหสารอินทรียตาง ๆ ที่จําเปนสําหรับการแบงเซลล
อินเตอรเฟสยังแบงยอยออกไดอีกเปน 3 ระยะ คือ ระยะจี-1 (G หรือ gap-1 period) ระยะเอส (S หรือ
1
synthesis period) และระยะจี-2 (G หรือ gap-2 period) (รูปที่ 6.3) ในระยะจี-1 เซลลมีการเตรียม
2