Page 41 -
P. 41
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
37
ตารางที่ 4.1 ลักษณะตาง ๆ ในแมลงหวี่ที่ถูกควบคุมดวยยีนในกลุมลิงเกจ 4 กลุม สัญลักษณของแตละ
ยีนแสดงไวในวงเล็บ
กลุมที่ 1 กลุมที่ 2 กลุมที่ 3 กลุมที่ 4
ตัวสีเหลือง (y) ปกทู (dp) ตาสีแดงไหม (se) ปกโคงลง (bt)
ตาสีขาว (w) ตัวสีดํา (b) ตาสีสคารเลต (st) ขนาดตาเล็ก (ey)
ปกหยัก (ct) ตาสีมวง (pr) ตัวสีดําคล้ํา (e)
ตาสีแดงเขม (v) ปกกุด (vg) ตาขรุขระ (ro)
ปกสั้น (m) ปกโคงขึ้น (c) ตาสีคลาเรต(ca)
ขนเปนงาม (f) ตาสีน้ําตาล (bw)
ตาบาร (B)
ตาสีคารเนชัน (car)
อยางไรก็ตามจํานวนไคแอสมาตอหนึ่งโครโมโซมคูเหมือนจะขึ้นอยูกับความยาวของ
โครโมโซม และไมแตกตางกันมากนักระหวางเซลลหนึ่งกับอีกเซลลหนึ่ง เชน โครโมโซมเพศ- เอกซ
ของแมลงหวี่มีจํานวนไคแอสมา 0-3 ตําแหนงตอหนึ่ง Coyote ไคแอสมาที่อยูใกลกันจะไมเปนอิสระ
จากกัน เนื่องจากไคแอสมาที่เกิด ณ ที่หนึ่งจะไปกดการเกิดไคแอสมาอีกแหงหนึ่งที่อยูติดกัน
ปรากฏการณนี้เรียกวา ไคแอสมา อินเตอรเฟอเรนซ (chiasma interference) หรือ ครอสโอเวอร
อินเตอรเฟอเรนซ (crossover interference)
ผลที่เกิดจากครอสซิงโอเวอรจะไดเซลลสืบพันธุ 2 ชนิด คือ ชนิดที่มียีนอยูดวยกันบน
โครโมโซมตามแบบเดิมของพอแมเรียกวา พาเรนทอลไทป (parental type) เชน AB และ ab กับชนิดที่
มีการจัดเรียงตัวของยีนแบบใหม เรียกวา รีคอมบิเนชัน (recombination) เชน Ab และ aB
รูปที่ 4.1 (A) การเกิดครอสซิงโอเวอรระหวางโครมาติดทั้งสองของโครโมโซมคูเหมือน (AB/ab)
ทําใหเกิดการรวมตัวของยีนแบบใหม (Ab กับ aB) ในเซลลสืบพันธุ (B) ผลของการเกิด
ดับเบิลครอสซิงโอเวอร