Page 130 -
P. 130
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
126
12.2 เพอริเซนตริค อินเวอรชัน
โครโมโซมที่เปนเพอริเซนตริค อินเวอรชันนั้นจะมีเซนโตรเมียรรวมอยูในชิ้นสวนที่ตอ
กลับทิศทาง จึงมีผลทําใหรูปรางโครโมโซมเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากมีการเปลี่ยนตําแหนงของเซน
โตรเมียร และมีการเปลี่ยนแปลงอัตราสวนความยาวแขนโครโมโซม ความผิดปกติของโครโมโซม
แบบนี้สามารถตรวจสอบไดจากแครีโอไทปของสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ ในการแบงเซลลแบไมโอซิสถาเซลล
อยูในสภาพเฮตเทอโรไซกัส โครโมโซมคูเหมือนจะมาจับคูกันเปนรูปแบบตาง ๆ กลาวคือ ถาชิ้นสวน
ที่ตอกลับทิศทางมีขนาดเล็ก ตรงบริเวณนี้จะไมมีการจับคูกันของโครโมโซม (รูปที่ 12.2 A) ถา
ชิ้นสวนที่ตอกลับทิศทางมีขนาดใหญในระหวางการจับคูจะเกิดการบิดตัวของเสนโครโมโซม เพื่อให
ยีนมาเขาคูกันแบบยีนตอยีน ทําใหมองเห็นเปนหวงในคูโครโมโซม เรียกวา อินเวอรชัน ลูป
(inversion loop) (รูปที่ 12.2 B) ถาชิ้นสวนที่ตอกลับทิศทางมีความยาวเกือบตลอดเสนโครโมโซม การ
จับคูจะเกิดขึ้นเฉพาะบริเวณที่ตอกลับทิศทาง สวนบริเวณปกติไมมีการจับคูกันของโครโมโซม (รูป
ที่ 12.2 C)
รูปที่ 12.2 การจับคูกันระหวางโครโมโซมปกติกับโครโมโซมที่มีการตอกลับทิศทางของชิ้นสวนใน
โครโมโซม (inversion) ในระหวางการแบงเซลลแบบไมโอซิส (A) การจับคูกันเมื่อชิ้น
สวนที่ตอกลับทิศทางมีขนาดเล็ก (B) การจับคูกันเมื่อชิ้นสวนที่ตอกลับทิศทางมีขนาด
ใหญ ทําใหเกิดเปนหวงในคูโครโมโซม (inversion loop) (C) ถาชิ้นสวนที่ตอกลับทิศทาง
มีความยาวเกือบตลอดเสนโครโมโซม การจับคูจะเกิดขึ้นเฉพาะบริเวณที่ตอกลับทิศทาง
สวนบริเวณปกติไมมีการจับคูกันของโครโมโซม