Page 134 -
P. 134
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
128
โครสร้างพืช
สเปิร์มเซลล์หนึ่งจะไปรวมตัวกับเซลล์ไข่เกิดเป็นไซโกตที่มีนิวเคลียสเป็นดิพลอยด์ (diploid,
2n) ซึ่งต่อมาจะเจริญไปเป็น เอ็มบริโอ (embryo) และอีกเซลล์หนึ่งไปรวมตัวกับ polar nuclei ทั้ง 2
เซลล์เกิดเป็นเอ็นโดสเปิร์มที่เป็นทริพลอยด์ (triploid, 3n) (ภาพที่ 6.23) นิวเคลียสของเอนโดสเปิร์มใน
ที่สุดจะแบ่งตัวได้เป็นเนื้อเยื่อเอนโดสเปิร์มล้อมรอบเอ็มบริโอ และมีบทบาทส าคัญในการเป็นแหล่งให้
ธาตุอาหารแก่เอ็มบริโอในระหว่างกระบวนการก าเนิดเอ็มบริโอ หรือในระยะต่อมาคือการพัฒนาเป็น
เมล็ดและการงอกของเมล็ดต่อไป ส่วน antipodal และ synergid จะเสื่อมสลายไปหมด และเมื่อ
เอ็มบริโอเจริญเต็มที่ ส่วนของ nucellus ก็จะสลายไป เนื่องจากมีการผสม 2 ครั้ง จึงเรียกกการปฎิสนธิใน
พืชมีดอกว่า double fertilization (ภาพที่ 6.24)
sperm + egg zygote
(n) (n) (2n)
sperm + 2 polar nuclei endosperm
(n)
(n) , (n) (3n)
ภาพที่ 6.23 ไดอะแกรมแสดงการเกิด double fertilization
ภาพที่ 6.24 การเกิด double fertilization ภายใน ออวุล
หลังการปฎิสนธิแล้วออวุลจะเจริญไปเป็นเมล็ด โดยเซลล์ไซโกตจะแบ่งเซลล์และเกิด
กระบวนการก าเนิดเอ็มบริโอ (embryogenesis) จนได้โครงสร้างของเอ็มบริโอที่ประกอบด้วยใบเลี้ยง
(cotyledon) และแกนการเจริญ (embryonic axis) (ภาพที่ 6.25) ขณะเดียวกันส่วนของเอ็นโดสเปร์มก็
จะมีการพัฒนาเช่นเดียวกัน โดยพืชบางชนิดเอ็นโดสเปร์มอาจสะลายไปเมื่อสิ้นสุดของกระบวนการ
ก าเนิดเอ็มบริโอ นอกจากนี้ส่วนของรังไข่จะเจริญไปเป็นผล และ integument เจริญไปเป็น เปลือกหุ้ม
รศ. ดร. ลิลลี่ กาวีต๊ะ