Page 168 -
P. 168
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2-35
เกิดขึ้นในจังหวัดภาคใตเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2531 อาจเกิดขึ้นอีกได จึงจําเปนตองระงับยับยั้งมิใหมีการ
ทําไมออกจากปาและเรงรัดฟนฟูสภาพปาขึ้นโดยเร็ว แตโดยที่พระราชบัญญัติปาไมพุทธศักราช 2484
มิไดใหอํานาจแกเจาหนาที่ของรัฐในอันที่จะยับยั้งการทําไมออกจากปาที่ไดเปดการทําไมโดยใหสัมปทานไป
แลวได ดังนั้น จึงจําเปนที่จะตองใหอํานาจดังกลาวแกเจาหนาที่ของรัฐ รวมทั้งกําหนดใหสัมปทานที่มีพื้นที่
อยูในเขตอุทยานแหงชาติหรือเขตรักษาพันธุสัตวปา ทั้งนี้โดยใหผูรับสัมปทาน ที่สัมปทานตองสิ้นสุดลงดวย
เหตุดังกลาว มีสิทธิ์ไดรับเงินชดเชยความเสียหาย ภายในขอบเขตที่กําหนดไว โดยคํานึงถึงความเปนธรรม
ทั้งแกประโยชนของสวนรวมและประโยชนของเอกชน และโดยที่เปนกรณีฉุกเฉินที่มีความจําเปนรีบดวนใน
อันที่จะรักษาความปลอดภัยสาธารณสุขและเพื่อปองกันภัยพิบัติสาธารณะ
ตอมาวันที่ 17 มกราคม 2532 รัฐมนตรีวาการกระทรวงเกษตรและสหกรณ ไดมีคําสั่งกระทรวง
เกษตรและสหกรณ ที่ 32/2532 เรื่องการใหสัมปทานสิ้นสุดลง โดยมีขอความในคําสั่ง ดังนี้
“เนื่องจากปจจุบันนี้พื้นที่ปาไมถูกทําลายและเสื่อมโทรมลงจนเปนเหตุใหเกิดสภาวะ
การขาดความสมดุลของสภาพแวดลอม กรณีเปนการจําเปนตองใชพื้นที่ปาไมในเขตสัมปทาน เพื่อ
รักษาความสมดุลของสภาพแวดลอม
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 68 ทวิ แหงพระราชกําหนดแกไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ
ปาไมพุทธศักราช 2484 พ.ศ. 2532 รัฐมนตรีวาการกระทรวงเกษตรและสหกรณ โดยความเห็นชอบของ
คณะรัฐมนตรี จึงมีคําสั่งใหสัมปทานทําไมหวงหามทุกชนิด (เวนสัมปทานทําไมปาชายเลน) ตาม
พระราชบัญญัติปาไม พุทธศักราช 2484 ทุกสัมปทานสิ้นสุดทั้งแปลง ทั้งนี้ ไมรวมถึงพื้นที่สัมปทานที่อยูใน
เขตอุทยานแหงชาติตามกฎหมายวาดวยอุทยานแหงชาติ หรือเขตรักษาพันธุสัตวปาตามกฎหมายวาดวยการ
สงวนและคุมครองสัตวปา ซึ่งสิทธิการทํากิจการที่ไดรับสัมปทานไดสิ้นสุดลงแลวตามมาตรา 4 แหงพระราช
กําหนดแกไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติปาไม พุทธศักราช 2484 พ.ศ. 2532”
วันที่ 28 มีนาคม 2532 คณะรัฐมนตรีไดมีมติเรื่องการดําเนินงานตามโครงการเพิกถอนสภาพ
ปาที่เปนพื้นที่ตั้งชุมชนตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2527 วา ใหกระทรวงเกษตรและ
สหกรณรับขอสังเกตไปพิจารณา โดยเห็นควรใหเพิกถอนสภาพปาที่เปนที่ตั้งชุมชนเฉพาะเขตที่เปนที่อยู
อาศัยเทานั้น สวนเขตที่เปนที่ดินทํากินนั้นใหดําเนินการตามแนวทางตามกฎหมายวาดวยการปฎิรูปที่ดิน
วันที่ 13 มิถุนายน 2532 คณะรัฐมนตรีมีมติเรื่องการชวยเหลือราษฎรที่เขาไปทํากินหรืออยู
อาศัยในเขตปาสงวนแหงชาติโดยผิดกฎหมาย โดยแกไขขอเสนอบางประการของคณะกรรมการกําหนด
มาตรการการชวยเหลือราษฎรที่เขาไปทํากินหรืออยูอาศัยในปาสงวนแหงชาติโดยผิดกฎหมาย ซึ่งมี นายมี
ชัย ฤชุพันธ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้นเปนประธาน และนายอภิลาศ โอสถานนท
ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี เปนเลขานุการ มติคณะรัฐมนตรีหลังจากปรับปรุงและแกไขแลวมีดังนี้
1. สภาพปาที่จะอนุญาตใหราษฎรเขาไปทํากินหรืออยูอาศัยเปนการชั่วคราว
1.1 เปนปาเสื่อมโทรม ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑและเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรีใน
คราวประชุมปรึกษา เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2532 กําหนดไว และ
1.2 ราษฎรไดเขาไปทํากินหรืออยูอาศัยในปานั้นอยูกอนป พ.ศ. 2524 และ
1.3 เปนปาที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ ไดเสนอคณะรัฐมนตรีใหความ
เห็นชอบเพื่อใหราษฎรเขาไปทํากินหรืออยูอาศัยเปนการชั่วคราวได
1.4 เนื้อที่ที่จะอนุญาติใหราษฎรเขาไปทํากิน หรืออยูอาศัยเปนการชั่วคราว
ครอบครัวละไมเกิน 250 ไร