Page 36 -
P. 36

ผู้บริโภค นั่นเอง กล่าวโดยสรุป ส่วนเกินของผู้บริโภค ก็คือ มูลค่าความยินดีที่จะ
 จ่ายของผู้บริโภคในส่วนที่เกินกว่ามูลค่าค่าใช้จ่ายที่ผู้บริโภคจ่ายจริงในการบริโภค
 สินค้าหรือบริการ

   นอกจากนี้ พื้นที่ที่ใช้แสดงส่วนเกินของผู้บริโภค ในทาง
 คณิตศาสตร์สามารถคํานวณได้จากการอินทิเกรตพื้นที่ใต้เส้นอุปสงค์
 (Q
 ( P 
 f
 ) )  ในส่วนที่เกินจากค่าใช้จ่ายจริงของผู้บริโภค ซึ่งแสดงด้วยสมการ
 ดังต่อไปนี้

                      Q
                     
 ส่วนเกินของผู้บริโภค = พื้นที่ ABP
                          (Q
                       1
                        f
                                   P 
                            ) dQ 
                   
                                      Q
               1
                                    1
                                       1
                      0
 2.2.1.2 ส่วนเกินของผู้ผลิต (Producer’s Surplus: P.S.)
     ผู้บริโภคได้รับจากการบริโภคสินค้าหรือบริการ หรือ เรียกว่า ส่วนเกินของ
    โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 ส่วนเกินของผู้ผลิตสามารถคํานวณได้จากมูลค่าในส่วนที่เกินจากต้นทุน
 การผลิตสินค้าหรือบริการของผู้ผลิต หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ “กําไร”  ของ
 ผู้ผลิตนั่นเอง ในทํานองเดียวกันกับหลักการของอุปสงค์ ทุกจุดที่เชื่อมต่อกันเป็น
          จำาหน่ายสินค้าหรือบริการของผู้ผลิตที่ปริมาณและราคาในระดับต่างๆ
 เส้นอุปทาน (Supply Curve) แสดงถึง ความยินดีที่จะจําหน่ายสินค้าหรือบริการ
          หรือถ้าพิจารณาในอีกมิติหนึ่ง เส้นอุปทานก็คือ ต้นทุนส่วนเพิ่ม (Marginal
 ของผู้ผลิตที่ปริมาณและราคาในระดับต่างๆ หรือถ้าพิจารณาในอีกมิติหนึ่ง เส้น
          Cost: MC) ของผู้ผลิตในส่วนที่อยู่เหนือจากต้นทุนเฉลี่ย กล่าวคือ เป็นต้น
 อุปทานก็คือ ต้นทุนส่วนเพิ่ม (Marginal Cost: MC) ของผู้ผลิตในส่วนที่อยู่เหนือ
          ทุนที่ผู้ผลิตต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจากการตัดสินใจผลิตหรือจำาหน่ายสินค้า/บริการ
 จากต้นทุนเฉลี่ย กล่าวคือ เป็นต้นทุนที่ผู้ผลิตต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจากการตัดสินใจ
 ผลิตหรือจําหน่ายสินค้า/บริการเพิ่มขึ้น 1 หน่วย (หรือ  P   f  (Q ) )
          เพิ่มขึ้น 1 หน่วย (หรือ)  MC 

   จากภาพที่ 2.2 แสดงให้เห็นว่า เมื่อผู้ผลิตตัดสินใจจําหน่ายสินค้า

                    จากภาพที่ 2.2 แสดงให้เห็นว่า เมื่อผู้ผลิตตัดสินใจจำาหน่าย
 หรือบริการที่ระดับราคา P 1 บาทต่อหน่วย ในปริมาณ Q 1 หน่วย รายรับรวมที่
          สินค้าหรือบริการที่ระดับราคา P  บาทต่อหน่วย ในปริมาณ Q  หน่วย
                                      1
 ผู้ผลิตรายนี้ได้รับคิดเป็นมูลค่า P 1xQ 1  บาท โดยผู้ผลิตมีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ระดับ   1
          รายรับรวมที่ผู้ผลิตรายนี้ได้รับคิดเป็นมูลค่า P xQ บาท โดยผู้ผลิตมีต้นทุน
 M  บาทต่อหน่วย ดังนั้น ต้นทุนการผลิตรวมทั้งหมดจึงเท่ากับพื้นที่ใต้เส้นอุปทาน   1
                                                1
          การผลิตอยู่ที่ระดับ M บาทต่อหน่วย ดังนั้น ต้นทุนการผลิตรวมทั้งหมดจึง
 หรือคิดเป็นพื้นที่เท่ากับ 0MBQ 1 ดังนั้น ส่วนเกินของผู้ผลิตสามารถคํานวณเป็น
          เท่ากับพื้นที่ใต้เส้นอุปทาน หรือคิดเป็นพื้นที่เท่ากับ 0MBQ  ดังนั้น ส่วน
 มูลค่าได้เท่ากับพื้นที่ MP 1B และสามารถแสดงให้อยู่ในรูปแบบสมการทาง  1
 คณิตศาสตร์ได้ดังนี้   เกินของผู้ผลิตสามารถคำานวณเป็นมูลค่าได้เท่ากับพื้นที่ MP B และสามารถ

                                                          1
          แสดงให้อยู่ในรูปแบบสมการทางคณิตศาสตร์ได้ดังนี้
            ส่วนเกินของผู้ผลิต = พื้นที่ MP 1 B   P 1  Q   0 Q 1  f  (Q ) dQ
                 ร�ค�ต่อหน่วย
                   ราคาต่อหน่วย
                      (P)
                                               Supply Curve
                           P 1           B
                               P.
                             M
                            0          Q 1         ปริม�ณสินค้�/บริก�ร(Q)
                                                        ปริมาณสินค้า/บริการ (Q)
          ภาพที่ 2-2 ส่วนเกินของผู้ผลิต
          ที่มา: กัมปนาท วิจิตรศรีกมล (2553)

                   สําหรับผลงานวิจัยทั้งประเภทที่เป็นงานวิจัยพื้นฐานและประงานวิจัย
      18    ประยุกต์นั้น ผลประโยชน์ส่วนใหญ่แสดงอยู่ในลักษณะดังนี้
                   1) การสร้างองค์ความรู้พื้นฐานเพื่อการต่อยอดงานวิจัยในขั้นต่อไป
                   2) การเพิ่มปริมาณผลผลิต ซึ่งมีผลต่อการเคลื่อนย้ายของเส้นอุปทานใน
            ระบบเศรษฐกิจ
                   3) การเพิ่มคุณภาพผลผลิต โดยทั่วไปเป็นสาเหตุให้เส้นอุปสงค์ในระบบ
            เศรษฐกิจมีการเคลื่อนย้ายได้
                   4) การลดต้นทุนการผลิต เป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค
                   5)    การเพิ่มคุณภาพชีวิตและสังคม ผลประโยชน์ส่วนใหญ่เป็น
            ผลประโยชน์ที่ไม่มีมูลค่าทางการเงิน แต่เป็นผลประโยชน์ทางด้านสังคม
            วัฒนธรรม และสุขภาพอนามัย เป็นต้น
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41