Page 155 -
P. 155

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี




               146                                                                           บทที่ 6





               เมื่อ N  = จํานวนโมเลกุลของตัวถูกดูดซับที่มีการดูดซับไดสมบูรณเพียงชั้นเดียวตอปริมาตร
                     mon
               และ  θ  = เศษสวนของการปกคลุมบนพื้นผิวของสาร i เชน A, B
                      i

               จากสมการ (6.8), (6.9) และ (6.10) จะได [A]  =  p   และ [B]  =  p B          (6.121)
                                                         A
               และ ความเขมขนเริ่มตนของสาร A และ B คือ [A]   =  p   และ [B]   =  p B,0   (6.122)
                                                               A,0
                                                         0
                                                                         0

               แทนคา [A], [B], [M], [AM], [BM] ในสมการ (6.116) และ (6.117) จะได

                       k  p  N  (1 – θ  – θ ) – k  N  θ  – k  (N )  θ θ         ~ 0
                                                                     2
                        a1 A mon
                                       A
                                                              3
                                                                 mon
                                                                        A  B
                                            B
                                                 d1 mon A
               หรือ                  k  p  (1 – θ  – θ ) – k  θ  – k  N  θ θ  ~ 0          (6.123)
                                                     B
                                                          d1 A
                                      a1 A
                                                A
                                                                  3 mon A  B
               ทํานองเดียวกัน จะได k  p  (1 – θ  – θ ) – k  θ  – k  N  θ θ  ~ 0           (6.124)
                                      a2 B
                                                A
                                                          d2 B
                                                                  3 mon A  B
                                                     B

               จากสมการ (6.123)  และ (6.124)  จะสามารถหาคาเศษสวนของการปกคลุมบนพื้นผิวของสาร A
               และ B (θ และ  θ )  ได  แตอยูในรูปซับซอน  ในที่นี้จึงกําหนดใหขั้นตอนการเกิดปฏิกิริยาใน
                                  B
                         A
               สมการ (6.113) เปนขั้นกําหนดอัตรา และคาคงที่อัตรา k  มีคานอยมาก ดังนั้นสมการ (6.123) และ
                                                               3
               (6.124) จะกลายเปน
                              k  p  (1 – θ  – θ )  ~       k  θ                            (6.125)
                                         A
                               a1 A
                                                            d1 A
                                              B
                              k  p  (1 – θ  – θ )  ~       k  θ                            (6.126)
                                                            d2 B
                                         A
                               a2 B
                                              B
               จัดรูปใหม และแทนคา K  จากสมการ (6.114) จะได
                                     i
                                            θ A    =       K  p  (1 – θ  – θ )             (6.127)
                                                            1 A
                                                                          B
                                                                     A
                                            θ B    =       K  p  (1 – θ  – θ )             (6.128)
                                                                     A
                                                                          B
                                                            2 B
               นําหนึ่งลบดวยผลรวมของสมการ (6.127) และ (6.128) จะได
                                     1 – θ  – θ    =     1 – K  p  (1 – θ  – θ ) – K  p  (1 – θ  – θ )
                                                                                 2 B
                                                                            B
                                                                                          A
                                                                       A
                                                                                               B
                                          A
                                                             1 A
                                              B
                                                                  1
               จัดรูปใหม จะได      1 – θ  – θ B  =                                       (6.129)
                                          A
                                                              1 + K 1 p + K 2 p B
                                                                  A
               แทนคาสมการ (6.129) ในสมการ (6.127) และ (6.128) จะได
                                                                K   p
                                            θ A    =              1  A                     (6.130)
                                                              K     1 +  1 p + K 2 p B
                                                                  A
                                                                K   p
                                            θ B    =              2  B                     (6.131)
                                                              K     1 +  1 p + K 2 p B
                                                                  A
   150   151   152   153   154   155   156   157   158   159   160