Page 82 -
P. 82
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
การวางแผนการน าเข้าสินค้า SUGAR ESTER
78
สูตรและการค านวณ
ความต้องการในช่วงเวลาน า = d = 3,300.78 x 2 = 6,601.56 กิโลกรัม
L
ปริมาณสินค้าคงคลังส ารอง (Safety stock) = z L = 645.1 831 . 71 2 = 1,94.70 กิโลกรัม
จุดสั่งซื้อ (s) = d L z L = 300,3 . 78 2 . 1 645 831 . 71 2 = 8,530 กิโลกรัม
ปริมาณสินค้าคงคลังที่ก าหนด (S) = s+ Q
2 KD
โดย Q =
h
h = ต้นทุนการเก็บรักษาต่อหน่วยต่อปี ( Inventory carrying cost) โดยข้อมูลมาจากฝ่ายบัญชี
ซึ่งประมาณจากดอกเบี้ยเงินกู้ ค่าบ ารุงรักษา ค่าด าเนินการจัดเก็บ (เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าจ้างพนักงานรายเดือน เป็น
ต้น) ค่าประกันและภาษี ค่าเสียหายเนื่องจากสินค้าหมดอายุ เป็นต้น ซึ่งก าหนดไว้ที่ 5% ของราคาต้นทุนสินค้า
ซึ่งเท่ากับ 1,000 บาทต่อกิโลกรัม ดังนั้น h = 1,000 x 0.05 = 50 บาทต่อกิโลกรัมต่อปี
K = ต้นทุนสั่งซื้อสินค้าต่อหน่วยต่อปี ( Ordering cost) โดยข้อมูลมาจากฝ่ายบัญชี ซึ่งประมาณจากค่า
เอกสารด าเนินการจัดซื้อสินค้า ค่าใช้จ่ายในการติดต่อและติดตามการสั่งซื้อสินค้า ค่าใช้จ่ายการรับสินค้าและน า
สินค้าออกจากท่าเรือ และค่าขนส่งสินค้าจากท่าเรือถึงบริษัท ซึ่งก าหนดไว้โดยประมาณที่ 40,000 บาทต่อรอบการ
สั่งสินค้าหนึ่งครั้ง
อัตราความต้องการสินค้าโดยเฉลี่ย (D) ต่อปี = 3,300.78 x 12 = 39,610 กิโลกรัมต่อปี
น าค่า K, h, D ที่ได้แทนค่าในสูตร
2KD 2 40 , 000 39 , 610
Q = = 7,961 กิโลกรัม
h 50
น าค่า Q ที่ได้มาประกอบการค านวณหาค่า ปริมาณวัสดุคงคลังสูงสุด (S) จากสูตร S = s+ Q = 8,530 +
7,916 = 16,446 กิโลกรัม หรือประมาณ 1,645 กล่อง (เนื่องจากขนาดบรรจุภัณฑ์ของสินค้า 1 กล่อง คือ 10
กิโลกรัม) ดังนั้น บริษัทควรตรวจสอบจ านวนวัสดุคงคลังทุกวัน และควรสั่งซื้อเมื่อปริมาณวัสดุในคลังเหลือน้อยกว่า
หรือเท่ากับ 853 กล่อง โดยสั่งซื้อเท่ากับ 1,645 กล่อง ลบด้วยจ านวนสินค้าคงคลังที่มีอยู่ (กล่อง) เมื่อ ทดลองน า
นโยบายนี้ไปปรับใช้กับการจัดการสินค้าคงคลังในปี พ.ศ. 2545-2549 และเปรียบเทียบต้นทุนรวม (Total cost)
กับวิธีการจัดการแบบเดิมที่บริษัทใช้อยู่ พบว่า จากการจัดการสินค้าคงคลังวิธีเดิม ในบางเดือนปริมาณสินค้าคง
คลังต่ ากว่าความต้องการสินค้าของลูกค้าหรือยอดขายสินค้า แสดงว่าบริษัทไม่สามารถจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้
ตามก าหนด ท าให้บริษัทต้องสูญเสียรายได้จากการสูญเสียโอกาสในส่วนนี้ ซึ่งในบางครั้งไม่สามารถวัดเป็นจ านวน
เงินได้ เนื่องจากลูกค้าอาจเปลี่ยนไปซื้อสินค้าจากบริษัทอื่น หรือท าให้เกิดความเสียหายต่อความเชื่อถือและ
ชื่อเสียงของบริษัท ดังนั้น เมื่อค านวณต้นทุนรวมต่อปีจากการด าเนินงานแบบเดิมของบริษัท จะก าหนดให้มีการ
คิดค่าต้นทุนสูญเสียโอกาสจากสินค้าคงคลังขาดมือ (Lost sales) โดยสมมติให้เป็น 100 บาทต่อกิโลกรัม ผลการ
ค านวณพบว่า การใช้นโยบายใหม่นี้เพิ่มระดับสินค้าคงคลังเฉลี่ยจากวิธีเดิม ท าให้ไม่มีสินค้าขาดมือ และสามารถ
ลดจ านวนครั้งในการสั่งซื้อได้ การเปรียบเทียบต้นทุนรวมในปีพ.ศ. 2545-2549 ระหว่างนโยบายเดิมและนโยบาย
สินค้าคงคลังแบบใหม่ สรุปได้ดังตารางที่ 2
ผลการเปรียบเทียบ พบว่า ต้นทุนรวม เมื่อไม่รวมราคาสินค้าน าเข้าของการใช้นโยบายใหม่ มีค่าต่ ากว่า
ต้นทุนรวมของการด าเนินงานแบบเดิม เท่ากับ 491,990 บาท นอกจากนี้ หากพิจารณาต้นทุน การน าเข้าสินค้า
พรธิภา องค์คุณารักษ์ และ อธิพัฒน์ พัฒนะศิริ