Page 84 -
P. 84
ิ
ุ
ิ
์
ื
ิ
ิ
โครงการพัฒนาหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรต สมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี
ั
้
้
ี
ุ
ั
ี
้
์
่
่
่
ประเด็น: บคคลใดมหนำทในกำรพิสูจนวำกำรโอนระหวำงผูทรงคนกอนมำยังผูทรงคนปจจุบัน
่
้
็
เปนกำรโอนโดยคบคิดฉอฉล
ประเด็นนีมีค าตอบอยูในค ำพิพำกษำฎกำท 2784/2548 โจทก์ซึงเปนผู้ทรงฟองให้จ าเลยใน
ี
ี
่
่
้
่
็
้
่
่
่
ฐานะผู้สั่งจายเช็คช าระเงินตามเช็คซึ่งเรียกเก็บเงินไมได้ จ าเลยให้การต่อสู้ว่า… จ าเลยสั่งจายเช็คให้แก่
้
็
้
ช. เพื่อเปนหลักประกันการช าระหนี แต่ ช. คบคิดกับโจทก์ฉอฉลจ าเลย…จ าเลยมิได้ให้การโดยชัดแจ้ง
ว่าโจทก์คบคิดกับ ข. ฉอฉลจ าเลยอย่างไร จึงเปนค าให้การทีไมมีประเด็นจะนาสืบ คดีวินิจฉัยได้โดยไม ่
้
็
่
่
ต้องสืบพยานโจทก์จ าเลย
้
จากค าพิพากษาฎีกานีจะเห็นได้ว่า ผู้ทรงฟองให้จ าเลยในฐานะผู้สั่งจายรับผิดตามเช็ค จ าเลยใน
้
่
็
่
ฐานะผู้สั่งจายให้การต่อสู้ว่า ผู้สั่งจายออกเช็คเพียงเพื่อเปนหลักประกันการช าระหนี แต่ ช. ผู้รับเช็คไป
้
่
้
ได้นาเช็คไปมอบให้โจทก์ แต่จ าเลยไมได้ให้การต่อสู้ว่า ได้คบคิดฉอฉลกันอย่างไร ดังนี เมือค าให้การ
่
้
่
่
้
่
็
่
ั
ของจ าเลยไมชัดแจ้งมีการคบคิดฉอฉลอย่างไร จึงเปนค าให้การทีไมมีประเด็นทีจะสืบได้ ดังนั้น จึงรับฟง
่
100
้
ไมได้ว่าโจทก์ได้รับโอนเช็คโดยคบคิดฉอฉล ท าให้เห็นได้ว่า บุคคลทีกล่าวอ้างว่าอีกฝายคบคิดกันฉอ
่
่
่
้
์
่
้
็
ฉลเปนผู้มีหนาทีพิสูจน
ี่
้
5.4 ข้อตอสูทไม่ไดอยู่ในบังคับของมำตรำ 916
้
่
่
่
้
มาตรา 916 เปนเรืองการห้ามนาข้อต่อสู้ทีผู้ถูกฟองคดีนาข้อต่อสู้ทีมีต่อผู้ทรงคนก่อนมาใช้กับผู้
็
่
ทรงคนปจจบัน แต่หากเปนข้อต่อสู้ทีมีต่อผู้ทรงคนปจจุบันเองจะไมต้องห้ามของมาตรา 916 เช่น
็
ั
ุ
่
ั
่
ี่
้
็
ตัวอย่ำงท 5.5 นายเปนต่อ ออกเช็คเพื่อช าระหนีค่ายาเสพติดให้กับนายขั้นเทพ แต่อย่างไรก็ตาม เมือ
่
่
่
นายขั้นเทพนาเช็คไปขึ้นเงินกับธนาคาร ธนาคารกลับปฏิเสธการจายเงินโดยให้เหตุผลว่า ไมมีเงินใน
็
บัญชีพอจ่าย หากนายขั้นเทพฟองให้นายเปนต่อรับผิดตามเช็ค นายเปนต่อย่อมสามารถยกข้อต่อสู้ได้ว่า
็
้
้
ี
้
่
็
่
่
ตนไม่ต้องรับผิดตามเช็ค เพราะเช็คได้ออกเพือช าระหนีค่ายาเสพติด ซึงเปนหนทีผิดกฎหมาย กรณีเช่น
่
็
็
้
่
ั
่
ว่านีไมต้องห้ามตามมาตรา 916 เพราะเปนข้อต่อสู้ทีมีต่อนายเปนต่อผู้ทรงคนปจจบัน ไมใช่ข้อต่อสู้ที่มี
ุ
ต่อผู้ทรงคนก่อนแต่อย่างใด
ี
่
ี
้
่
100 นอกจากนีมีค ำพิพำกษำฎกำท 1042/2534 ซึงวินิจฉัยท านองเดียวกัน (‘เมื่อตั๋วสัญญาใช้เงินถึงก าหนดโจทก์ผู้ทรง
ี่
ี่
่
มิได้นาตั๋วสัญญาใช้เงินไปยื่นต่อจ าเลย ณ ภูมิล าเนาของจ าเลยเพื่อให้ใช้เงินตามตั๋ว.....จ ำเลยท 5 ตอสู้ว่ำ จ ำเลยท 5
่
ไม่ตองรับผิดช ำระเงินตำมเช็คพิพำทตอโจทก์เพรำะโจทก์รับโอนเช็คพิพำทไว้โดยคบคิดกันฉอฉลน้นภำระกำร
ั
้
้
่
ั
่
่
ี
่
่
์
พิสูจนตกอยูแกจ ำเลยท 5 ทีจะต้องนาสืบให้รับฟงได้ดังทีจ าเลยที 5 กล่าวอ้าง เมื่อเช็คพิพาทได้มาโดยมีมูลหนี ้
่
จ าเลยที 5 มีหนาทีต้องนาสืบว่า จ าเลยที 2 ผิดสัญญาต่อ ย.จนย. ได้บอกเลิกสัญญาขายหุ้นและโจทก์ได้รับโอนเช็ค
่
้
่
่
่
พิพาทโดยทราบดีว่าสัญญาซื้อขายหุ้นระหว่างจ าเลยที 2 กับ ย. ได้เลิกกัน เมื่อจ าเลยที 5 ไม่สามารถสืบข้อเท็จจริง
่
ดังกล่าวได้ จึงฟงไม่ได้ว่าโจทก์รับโอนเช็คพิพาทไว้โดยคบคิดกันฉอฉลจ าเลยที 2 จ าเลยที 5 จึงต้องรับผิดตามเช็ค
่
ั
้
่
พิพาทในฐานะผู้สั่งจ่าย’)
83
เอกสารประกอบการสอนวิชากฎหมายว่าด้วยตั๋วเงิน โดย อ. ดร. ชีวิน มัลลิกะมาลย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์